ผลเลือกตั้งนายก อบจ.อ่างทอง นับคะแนนเสร็จแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ "สุรเชษ นิ่มกุล" ผู้สมัครเพียงคนเดียว เข้าวินตาม 2 เงื่อนไข ปักธงเก้าอี้นายก อบจ. ชาวบ้าน 20 คน ร้อง กกต.เชือดผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขีดเส้นตรวจสอบ 3 วัน ก่อนส่งเรื่อง กกต.กลาง 

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานผลการเลือกตั้ง นายก อบจ.อ่างทอง เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สมัครเพียง 1 คน คือ นายสุรเชษ นิ่มกุล หรือ "นายกฯ ตี๋" อดีตนายก อบจ.อ่างทอง หมายเลข 1 โดยเพจเฟซบุ๊ก องค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง ได้อัปเดตผลการนับคะแนน (อย่างไม่เป็นทางการ) เวลา 21.40 น. วันที่ 23 มิ.ย. นับแล้ว 100% พบว่า นายสุรเชษ ได้ 82,741 คะแนน จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 220,977 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 103,501 คน ในจำนวนนี้เป็นบัตรดี 82,741 ใบ บัตรเสีย 5,841 ใบ และบัตรที่ทำเครื่องหมายไม่เลือกผู้สมัครคนใด 14,919 ใบ

สำหรับการได้รับเลือกตั้ง กรณีผู้สมัครมีเพียงคนเดียวนั้น ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ปี พ.ศ. 2562 มาตรา 111 ได้กำหนดว่า กรณีที่มีผู้สมัครเท่าจำนวนที่จะพึงมี ซึ่งมีผู้สมัครลงเลือกตั้งเพียง 1 คน กับตำแหน่งที่ลงสมัครมีจำนวนเท่ากัน กรณีที่จะได้รับเลือกตั้งตามกฎหมายจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 2 เงื่อนไข คือ ได้รับคะแนนมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดของจังหวัด และเงื่อนไขที่ 2 ต้องมีคะแนนที่มากกว่าคะแนนที่ไม่เลือกผู้สมัครใด ก็คือคะแนนที่จะไม่ประสงค์ที่จะเลือกผู้สมัครผู้ใด จะต้องเป็น 2 เงื่อนไขนี้จึงจะได้รับการเลือกตั้ง และได้รับการประกาศให้เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ถ้าไม่สามารถทำได้ 2 เงื่อนไขนี้ ก็จะประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อรับสมัครผู้ลงเลือกตั้งใหม่ โดยผู้สมัครรายเดิมไม่สามารถลงสมัครได้อีก

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 23 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดอ่างทอง ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง นายโยธิน เปาอินทร์ พร้อมชาวบ้านจำนวนกว่า 20 คน ได้นำเอกสารปิดผนึกและแฟลชไดรฟ์คลิปวิดีโอ มายื่นร้องเรียนกับ น.ส.ดรุพร ปิงสุทธิวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมือง และนายสุวิทย์ พวดชู พนักงานสืบสวนและไต่สวนชำนาญการ โดยกล่าวหาว่า ผู้สมัครนายก อบจ.ที่มีเพียงคนเดียวในจังหวัด กระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ในมาตรา 65 ซึ่งมีความผิดหลายวรรค ในความผิดสัญญาว่าจะให้และจัดเลี้ยง หลังประกาศลาออกจากตำแหน่ง นายก อบจ.อ่างทอง ในระยะเวลา 90 วัน โดยใช้เวลาในการยื่นหนังสือร้องเรียน และส่งมอบหลักฐานประมาณ 30 นาที จึงเดินทางกลับ

โดย นายโยธิน เปาอินทร์ ผู้ร้องเรียน กล่าวว่า ตนและชาวบ้านได้เดินทางมาร้องเรียนผู้สมัครนายก อบจ. ว่า มีความผิดตามมาตรา 65 พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาของสมาชิกท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น วรรคแรกวงเล็บแรก ห้ามให้สัญญาจะให้กับบุคคลเพื่อเป็นแรงจูงใจให้มาใช้สิทธิลงคะแนนให้ตัวเอง วงเล็บ 2 ห้ามให้สัญญาว่าจะให้กับองค์กรทั้งหลาย วงเล็บ 3 ห้ามจัดให้มีมหรสพ วงเล็บ 4 ห้ามจัดเลี้ยง ซึ่งในเอกสารที่นำมายื่น ยืนยันว่ามีการจัดเลี้ยงอย่างแน่นอน ในวันที่ 30 มี.ค. 2567 มีการจัดเลี้ยงวันเกิด มีการเลี้ยง มีการแจกของชำร่วยในงาน ซึ่งตนมีคลิปวิดีโออยู่ในแฟลชไดรฟ์ มีการแจกของหลาย อบต. ซึ่งมีการโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียจากเฟซบุ๊ก จากคนที่น่าเชื่อถือและหน่วยงาน แม้กระทั่งเฟซบุ๊กของ อบจ.ก็โพสต์ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งผู้ถูกร้องน่าจะระวังในโหมดของ 180 วัน ก่อนครบวาระ แต่เป็นการลาออกก็จะเป็นการเข้าโหมด 90 วัน ก่อนลาออก ซึ่งกฎหมายจะแบ่งเป็น 2 ช่วง

ขณะที่ น.ส.ดรุพร ปิงสุทธิวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมือง กล่าวว่า เบื้องต้นทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอ่างทอง ได้รับเรื่องและหลักฐานการร้องเรียนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนจะนำเรื่องไปทำการพิจารณาอีกทีนึง โดยผู้ร้องเรียนยื่นร้องเรียนในลักษณะที่ว่ามีการให้ทรัพย์สิน หรือการเสนอให้เงิน ทรัพย์สินกับชุมชน ในระยะเวลา 90 วัน ก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่ง นายก อบจ. ซึ่งทาง กกต.จังหวัดอ่างทอง จะทำการพิจารณาคำร้องให้เสร็จก่อนภายใน 3 วัน และจะมีระยะเวลาขั้นตอนการสืบสวนของ กกต. เสนอต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอ่างทอง แล้วสำนวนจะถูกส่งต่อไปยังส่วนกลางผู้ผู้พิจารณาครั้งหนึ่ง ปกติถ้ามีเรื่องร้องคัดค้าน ทาง กกต.ประจำจังหวัดก็จะยังไม่ทำการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าระยะเวลาผ่านไปถึง 60 วัน แล้ว ผลการสอบสวนยังไม่ออก ก็อาจจะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนตามกฎหมายต่อไป