อุทาหรณ์สาวท้องแก่ 8 เดือนจุดไฟเผาขยะ มีกระป๋องสเปรย์อยู่ในกองขยะระเบิดพุ่งใส่คอตัดเส้นเลือดใหญ่เสียชีวิต ตายทั้งกลม สุดสลดญาติขอให้กู้ภัยผ่าเอาร่างเด็กออกจากท้องแม่ ก่อนนำไปทำพิธีทางศาสนา
เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 11 พ.ค. 67 พ.ต.ต. ประยุทธ นุชนารถ สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุสาวท้องแก่ 8 เดือน จุดไฟเผาขยะถูกกระป๋องสเปรย์ระเบิดใส่คอได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ บริเวณแท็งก์น้ำประปาข้างวัดละหาร ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียว ไม่มีเลขที่ ที่ลานข้างบ้านมีร่องรอยการจุดไฟเผากองขยะ มีรอยเลือดกระจายเป็นจุดๆ ขณะที่ผู้บาดเจ็บเป็นหญิงสาวท้อง 8 เดือน มีรถพยาบาลโรงพยาบาลศรีประจันต์มารับตัวไปรักษา แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ทราบชื่อ น.ส.สุธิสา ดีน้อย อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 137/15 หมู่ 6 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เสียชีวิตทั้งแม่และลูกในท้อง ขณะที่กู้ภัยได้ทำการผ่าเด็กออกจากท้องแม่ เป็นทารกเพศหญิง อายุครรภ์ประมาณ 8 เดือน สภาพสมบูรณ์ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังได้จัดการแต่งหน้าให้กับศพที่เสียชีวิต นำศพเด็กมอบให้นายเมธิน ทองอินทร์ อายุ 17 ปี พ่อของหนูน้อย อุ้มร่างลูกใส่ในอ้อมอกผู้เป็นแม่ไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดเถรพลาย
นายสงบ ทองอินทร์ อายุ 72 ปี เล่าว่า เห็นหลานสะใภ้ตื่นมาตอนเช้า เก็บกวาดใบไม้ ขยะบริเวณหน้าบ้านกับเด็กที่เป็นหลานอีกคน หลังจากกวาดขยะเสร็จหลานสะใภ้ได้จุดไฟเผาขยะและเอาไม้เขี่ยขยะเข้ากองไฟ ระหว่างนั้นหลานชายที่ยืนอยู่ด้วยได้เดินไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรระเบิด และได้ยินเสียงหลานสะใภ้ร้องเสียงดัง ตนจึงตะโกนเรียกหลานชายซึ่งเป็นสามีให้รีบออกมาดู ส่วนตัวเองค่อยๆ เดินมาดูทีหลังเพราะขาไม่ดี เดินช้า พอเดินมาเห็นก็ลงไปกอดหลานและเอามืออุดเลือดที่กำลังไหลอยู่บริเวณลำคอ พร้อมทั้งให้ญาติรีบเรียกรถพยาบาล หลังจากนั้นไม่นานก็ทราบว่าหลานสะใภ้เสียชีวิตพร้อมกับลูกในท้อง
...
น.ส.วิภาดา คุ้มหมู่ อายุ 35 ปี แม่ผู้เสียชีวิตเผยว่า เมื่อสองวันก่อนลูกสาวได้มาอยู่กับตนที่ห้องพัก และเพิ่งกลับไปอยู่กับแฟนได้เพียง 1 คืน ก่อนหน้านี้ลูกสาวทำงานอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในอำเภอศรีประจันต์ หลังจากท้องก็ลาออกเตรียมจะคลอดลูกในวันที่ 8 เดือนหน้านี้ ก่อนเกิดเหตุลูกสาวจุดไฟเผาขยะ และมีกระป๋องสเปรย์ที่อยู่ในกองขยะระเบิดใส่คอไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องผ่าเอาเด็กออกก่อนจึงจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลได้ ตนจึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ผ่าเอาศพเด็กออก
ด้านนายรัตนพล อาสาเภสัช อาสาสมัครมูลนิธิเสมอกัน กู้ภัยสุพรรณบุรี ผู้ที่ผ่าท้องแม่ นำร่างทารกที่ตายทั้งกลมออกมา กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกลัว หรือจะมีอาถรรพณ์อะไร ตนอยู่ตรงนี้นึกถึงหลักทางพระพุทธศาสนา ก็คือการดับธาตุขันธ์ ส่วนตามหลักการแพทย์ก็มีการขออนุญาตตำรวจและแพทย์ ในการผ่าร่างเด็กออกมาตามความประสงค์ของญาติ ซึ่งร่างของทั้งคู่จะนำไปที่วัดเถรพลาย โดยร่างแม่จะสวดอภิธรรม และฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 13 พ.ค.นี้ ส่วนลูกจะนำไปฝังในวัด ซึ่งทางอาสาชุดตนมีบริการแต่งหน้าศพทุกศพให้ ก่อนที่ญาติจะนำไปบำเพ็ญกุศล ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายผู้หญิง เพื่อให้ร่างดูสวยงาม ญาติจะได้คลายความเศร้าลง พร้อมกันนี้ขอฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ หากจะเผาขยะ ต้องระวัง ต้องดูในกองไฟว่ามีอะไรบ้าง เพราะที่จริงเขารณรงค์ไม่ให้เผา ให้เก็บรวบรวมนำไปทิ้งในถังขยะดีกว่า ครั้งนี้เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากให้เป็นอุทาหรณ์