วงจรปิดจับภาพ โจรแสบลักทุเรียนเกรดเอแม่ค้าในตลาด 3 ลูก ถูกไล่จับหนีจนรถล้มทำทีนอนสลบ กู้ภัยมาตรวจพบแกล้งเป็นเจ็บหนัก แต่ไม่ได้บาดเจ็บจริง หามลงเปลนำไปโรงพัก ไปถึงยังนอนไม่ลุก ต้องหามเข้าห้องขัง
ที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 4 พ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถนนสายโพธิ์พระยา-วังยาง สายเก่า หมู่ 3 ต.โพธิ์พระยา อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงประสานกำลังเข้าตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับสี่แยกไฟแดงตลาดโพธิ์พระยา พบร่างผู้บาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่ใกล้กับรถจักรยานยนต์แบบหญิง หมายเลขทะเบียน 1กบ 4873 สระบุรี ที่ล้มอยู่ และมีกระเป๋าสะพายสีดำตกอยู่ ภายในกระเป๋ามีทุเรียนอยู่ 2 ลูก และที่ใต้เบาะนั่งอีก 1 ลูก ส่วนคนขี่ทำท่าเหมือนคนสลบ มีบาดแผลถลอกบริเวณศีรษะ เจ้าหน้าที่พยายามเรียกให้ตื่น เพื่อสอบถามอาการและข้อมูลเบื้องต้น แต่คนเจ็บไม่ยอมพูดจา นอนนิ่งเหมือคนสลบอย่างเดียว หลังปฐมพยาบาลเสร็จ นำขึ้นรถกู้ภัยเพื่อไปส่งโรงพยาบาล
ระหว่างนั้นมี นายโรจนวิทย์ ทวนทอง อายุ 31 ปี ได้บอกกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า ผู้บาดเจ็บคือคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยทุเรียนของตน จำนวน 3 ลูก จากตลาดสดโพธิ์พระยา และหลบหนีมาประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ได้รับบาดเจ็บ ขอให้แจ้งตำรวจมาจับตัวไปดำเนินคดีให้ด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเปลี่ยนที่หมายจากจะไปส่งที่โรงพยาบาลเป็นนำไปโรงพักแทน เพราะผู้บาดเจ็บอาการไม่สาหัส เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน โดยจากจุดเกิดเหตุไปจนถึงโรงพัก ผู้บาดเจ็บไม่ยอมตอบคำถามใดๆ ของกู้ภัย ได้แต่นอนนิ่งกระทั่งไปถึงโรงพักก็ไม่ยอมเดิน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันหามขึ้นไปส่งให้ตำรวจ
...
พ.ต.ท.วัฒนา แก้วเจริญ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เจ้าของคดีกล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบสวนผู้บาดเจ็บก็ยังไม่ยอมพูด จนต้องให้ตำรวจสายตรวจมาขู่จึงยอมพูด โดยบอกเพียงว่า ชื่อ นายสุทัศน์ เจ็ดกริช อายุ 45 ปี ไปขโมยทุเรียนเพราะอยากกิน จากนั้นก็ไม่ยอมพูดอะไรและนอนต่อเหมือนคนสลบ เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ
ด้าน นางวันเพ็ญ ทวนทอง 63 ปี แม่ค้าขายทุเรียนอยู่ตลาดสดโพธิ์พระยา ผู้เสียหายเล่าว่า ตนขายทุเรียนมานานตั้งแต่จำความได้กระทั่งถึงปัจจุบัน ไม่เคยถูกขโมย เพราะตนเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น ชอบทำบุญ บางครั้งลูกค้ามาซื้อทุเรียนเงินไม่พอจ่ายก็ยกให้ หรือบางครั้งคนแก่ยากจนพาหลานมาเดินตลาด หลานบอกอยากกินทุเรียน ตนก็ให้ฟรีๆ แต่ครั้งนี้หลังจากปิดแผงขายผลไม้กลับบ้านได้ประมาณ 1 ชั่วโมง สัญญาณจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่แผงขายผลไม้ ซึ่งมีทั้งแตงโม ส้มโอ และทุเรียน ก็แจ้งเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือ จึงเปิดดูเห็นคนร้ายเป็นชายเข้ามาขโมยทุเรียนเกรดเอ ที่เก็บไว้ในเข่งใต้โต๊ะ ซึ่งผลไม้งตนไม่ได้เก็บกลับบ้าน จึงให้ลูกชายออกไปดู ก็พบว่ามีพ่อค้าที่ขายของอยู่ตลาดเดียวกันบอกลูกชายว่ามีคนร้ายขโมยทุเรียน จึงช่วยกันขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม

หลังจากที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หนีไปได้ประมาณ 800 เมตร รถจักรยานยนต์ของร้ายเกิดล้ม ลูกชายและพ่อค้าที่ตามไปก็ช่วยกันจับตัวคนร้ายไว้ได้ แต่คนร้ายแกล้งทำเป็นเจ็บหนักจนสลบ ครั้งแรกคิดจะไม่เอาเรื่องเพราะคิดว่าคนร้ายขโมยทุเรียนไป 1 ลูก แต่พอเห็นคนร้ายย้อนกลับมาเอาทุเรียนซึ่งเป็นทุเรียนเกรดเอ ซื้อมาจากสวนที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีราคาแพง ทุเรียนที่คนร้ายขโมยไป 3 ลูก คิดเป็นเงินกว่า 2,000 บาท จึงให้ตำรวจดำเนินคดี เพราะถ้าปล่อยไว้คนร้ายอาจไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
นายโรจนวิทย์ ทวนทอง 31 ปี ลูกชายผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะกำลังนอนหลับ แม่มาปลุกบอกมีคนร้ายขโมยทุเรียนที่แผงในตลาดโพธิ์พระยา จึงรีบออกไปดู ก็พบพ่อค้าที่ขายของอยู่ตลาดเดียวกัน กำลังขี่รถไล่ตามคนร้ายและบอกว่าเป็นคนที่ขโมยทุเรียนของตน จึงช่วยกันติดตามกระทั่งรถคนร้ายล้ม และจับตัวได้พร้อมของกลาง ซึ่งก่อนหน้าที่คนร้ายจะมาขโมยทุเรียนของตน ก็มีเหตุการณ์ขโมยทุเรียนของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโพธิ์พระยา แต่ยังจับตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ ผู้เสียหายจึงมาซุ่มดูจนพบคนมาขโมยของ จึงไล่ตามจับ แต่คนร้ายไม่ยอมพูดทำเป็นว่ารถล้มสลบ อยากบอกคนร้ายว่าให้รู้จักทำมาหากินเหมือนคนอื่นเขา มีงานให้ทำเยอะแยะ มือเท้าก็มีครบ ไม่ได้พิการ ชาวบ้านเขาเดือดร้อน
ทางด้าน นายจิรโชติ จำปาเงิน อายุ 19 ปี อาสาสมัครมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่ไปช่วยคนเจ็บ กล่าวว่า ตอนแรกได้รับแจ้งว่ามีรถจักรยานยนต์แหกโค้ง จึงนำไปตรวจสอบ พอเจอพบว่านอนเหมือนสลบ นึกว่าอาการโคม่า มีบาดแผลรอยถลอกที่ศีรษะ เลือดออกเล็กน้อย จึงประเมินอาการคนเจ็บตามหลักของ สพฉ. โดยการใช้มือกดลิ้นปี่ คนเจ็บกลับสะดุ้ง และร้องโอ๊ย จึงรู้ว่าแกล้งทำสลบ แต่เรียกก็ไม่ยอมลุก จึงอุ้มคนไข้ใส่เปลไปโรงพัก ถึงโรงพักก็ยังไม่ยอมตื่น ทำนอนไม่รู้ไม่ชี้ ถามอะไรไม่ยอมตอบ จนต้องอุ้มเข้าห้องขังเอาไว้ก่อน ซึ่งตนก็ไม่เคยเจอเคสแบบนี้มาก่อน นับว่าคนร้ายรายนี้แสบสุดตั้งแต่พบเจอมา
...