ปปท. เขต 7 ลงพื้นที่ “เกาะรังนก” เกาะจาน เกาะท้ายทรีย์ ใน อช.หาดวนกร จ.ประจวบฯ หลังไม่มีผู้ยื่นสัมปทานเก็บรังนก แม้เปิดประมูลแล้ว 27 ครั้ง ยืนยันว่าไม่มีการแอบขโมยเก็บรังนกไปขาย ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่รกร้าง เพราะไม่มีงบประมาณรื้อถอน


เช้าวันที่ 24 เมษายน 2567 ที่อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.นันทนัช ละมั่งทอง ผอ.กลุ่มงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 3 ปปท. เขต 7 พร้อมด้วย น.ส.สุพร พลพันธ๋ หัวหน้า อช.หาดวนกร พร้อมเจ้าหน้าที่จาก ปปท.เขต7, อบจ.ประจวบคีรีขันธ์, ฝ่ายปกครองฯ, ตำรวจ สภ.คลองวาฬ, ตำรวจน้ำบางสะพาน และสื่อมวลชน เดินทางไปยังเกาะจาน เกาะท้ายทรีย์ ใน อช.หาดวนกร ที่เคยมีการสัมปทานเก็บรังนกอีแอ่นต่อเนื่องกว่า 20 ปี จนกระท้่งปี 2564 สัญญาฉบับล่าสุด (สัญญาที่ 4) สิ้นสุดลงและได้มีการเปิดประมูลแล้วถึง 27 ครั้ง และได้ลดราคากลางลงมากว่า 60% ก็ยังไม่มีผู้เข้าร่วมการประมูล ภายหลังจากการลงพื้นที่ ทาง ปปท.ได้มีการร่วมประชุมกับทางหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยมีนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นประธานการประชุม

...


พ.ต.ท.นันทนัช ละมั่งทอง ผอ.กลุ่มงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 3 ปปท. เขต 7 กล่าวภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมว่า จากการกระแสสังคมในสื่อออนไลน์ ตั้งข้อสงสัยว่ามีการในช่วงที่ยังไม่มีการให้สัมปทานฉบับใหม่มีการแอบลักลอบเข้ามาหาผลประโยชน์แอบเก็บเอารังนกขายหรือไม่ทาง ปปท.จึงได้เข้ามาในพื้นที่จริงในวันนี้พร้อมกับทาง ผอ.รมน.จังหวัด, หน.อช.หาดวนกร, นิติกรจากทาง อบจ.และภาคส่วนต่างๆ และเครือข่ายภาคประชาชนป้องกันการทุจริตในระดับจังหวัด เพื่อเข้าตรวจสอบบนเกาะจานและเกาะท้ายทรีย์ จากนั้นจึงได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นกรรมการในการประมูลสัมปทาน 


จากการลงพื้นที่และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ทราบข้อมูลว่าภายหลังจากที่สัมปทานฉบับล่าสุดจบลงเมื่อวันที่ 16 พ.ย.64 ได้มีการเปิดประมูลแล้วถึง 27 ครั้งแต่ไม่มีผู้สนใจเข้าประมูลโดยทาง อบจ.ได้ชี้เเจงถึงสาเหตุที่ไม่มีผู้สนใจแม้จะมีการปรับราคากลางของสัมปทานไว้จาก120ล้านบาทลงมาเรื่อยๆจนล่าสุดครั้งที่ 27 เหลือแค่เพียงประมาณ 50 ล้านบาท หรือปรับลดลงมากว่า 70 ล้านบาท โดยทางคณะกรรมการของการประมูลสัมปทานได้ให้เหตุผลว่า จากการที่ผู้รับสัมปทานส่วนใหญ่ประสบภาวะขาดทุนเนื่องจากตลาดที่ประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญได้ห้ามการนำเข้ารังนกจากทุกประเทศ อีกทั้งปัญหาจากโควิด-19 รวมถึงการที่มีคอนโดรังนกเพิ่มขึ้นมาจำนวนมากและมีต้นทุนและราคาที่ถูกกว่ารังนกถ้ำจึงทำให้ไม่มีผู้รับสัมปทาน นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปัจจุบันเกาะจานและเกาะท้ายทรีย์อยู่ในพื้นที่ดูแลรับผิดชอบโดยอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการแอบขโมยเก็บรังนกไปขายในช่วงที่ยังไม่มีผู้ได้รับสัมปทานและได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแลพื้นที่อยู่ตลอดและในส่วนของสิ่งปลูกสร้างที่รกร้างยังไม่มีงบประมาณในการรื้อถอน พ.ต.ท.นันทนัช กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากการลงพื้นที่ร่วมกับทางคณะพบบริเวณรอบเกาะจาน-เกาะท้ายทรีย์ ยังมีเพิงพักที่อดีตเป็นที่พักคนงานของผู้รับสัมปทานพักอาศัยและเฝ้ารังนกกระจายอยู่โดยรอบเกาะจานและเกาะท้ายทรีย์ สภาพผุพัง แต่เมื่อขึ้นไปบนเกาะและไปสำรวจในจุดที่นกนางแอ่นทำรังพบรังนกนางแอ่นตามผนังถ้ำ แต่ได้พบข้อสังเกตว่าในพื้นที่แทบจะไม่พบเศษซากรังนกนางเเอ่นที่ร่วงหล่นตามธรรมชาติ และในจุดที่เป็นเหมือนแคมป์พักของคนเฝ้าเกาะยังพบที่นอนและหมอนมุ้งอยู่หลายชุด สภาพไม่เก่ามากและเพิ่งผ่านการใช้งานมาไม่นานมากนัก ขวดน้ำดื่มสภาพใหม่ที่ระบุวันเดือนปีผลิต คือ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกทิ้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว ตลอดจนระบบกล้องวงจรปิด ไวไฟอินเทอร์เน็ต และระบบควบคุมสภาพแวดล้อมภายในบ้านนกแอ่นกินรังยังคงอยู่สถานะ Online ใช้งานอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ที่สำคัญภายในโถงถ้ำขนาดใหญ่ถ้ำหนึ่งที่คาดว่าเป็นจุดหลักอีกหนึ่งจุดในการเก็บรังนกยังพบเห็นโครงสร้างนั่งร้านไม้ไผ่ขนาดใหญ่ที่ยังคงอยู่ในสภาพเก่าแต่ค่อนข้างมีความสมบูรณ์โดยได้มีการสอบถามตั้งข้อสังเกตดังกล่าวกับ น.ส.สุพร พลพันธ์ หน.อุทยานฯ

...


น.ส.สุพร หน.อช.หาดวนกร กล่าวว่า ในส่วนของที่นอน หมอน มุ้งหลายชุดที่พบตลอดจนขวดน้ำดื่มและเศษซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปน่าจะเป็นของทางเจ้าหน้าที่อุทยานที่ได้มาใช้เพิงดังกล่าวพักชั่วคราวเมื่อต้องมาลาดตระเวนในจุดนี้ ซึ่งปกติจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานผลัดเปลี่ยนกันมาเฝ้าเวรยามที่เกาะ ซึ่งจะมีบ้านพักอยู่อีกฝั่งนึงของเกาะ ในส่วนของกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าถ้ำ ภายในถ้ำและระบบอินเทอร์เน็ตรวมถึงระบบควบคุมสภาพแวดล้อมที่เปิดทำงานเป็นของทางคณะวิจัยจากทางคณะวนศาสตร์ ม.เกษตรฯ ที่ขอใช้พื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในงานวิจัย ในส่วนของนั่งร้านเท่าที่ดูก็มีสภาพผุพังไปตามเวลาแต่ที่ยังไม่ได้มีการรื้อถอนเนื่องจากโครงสร้างตลอดจนเพิงพักโดยรอบเกาะที่ผุพังเกิดขึ้นจากผู้รับสัมปทานไม่ได้ทำการรื้อถอนไปเมื่อหมดสัมปทานซึ่งทางอุทยานฯไม่สามารถตั้งงบประมาณเพื่อมารื้อถอนได้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสัมปทานจะพิจารณาแนวทางในการดำเนินการต่อไป