พลทหารเรือรวมกลุ่มเหมารถตู้เพื่อกลับบ้าน หลังได้พักช่วงสงกรานต์ แต่เกิดเหตุระทึก เมื่อไปชนอัดกับพ่วง 18 ล้อ ดับ 2 ศพ บาดเจ็บอีก 13 ราย บนถนน 304 หน้าตลาดเขาหินซ้อน กู้ภัยพนมระดมช่วยนำส่งรักษาโรงพยาบาล 


เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 4 เม.ย. 67 ร.ต.อ.สุนทร อมรเวช ร้อยเวร สภ.เขาหินซ้อน ได้รับแจ้งเหตุมีอุบัติเหตุรถตู้เฉี่ยวชนกับรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ บนถนนหมายเลข 304 มุ่งหน้ากบินทร์บุรี หน้าตลาดพูนทรัพย์ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพนมสารคาม เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถตู้มินิบัสสีขาว เป็นรถร่วมบริการ หมายเลขทะเบียน 16-7259 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่กลางถนน สภาพหลังคาเปิด หน้ารถเสียหาย ผู้โดยสารกระเด็นนอนเกลื่อนถนนกว่า 10 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้เร่งให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล 


จากนั้นพบว่ามีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ติดภายในรถตู้ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากตัวรถ ใกล้เคียงยังพบรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จอดอยู่บริเวณข้างทาง สภาพล้อหลังหัวรถด้านขวาพังเสียหายจากการถูกเฉี่ยวชน คนขับรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ไม่ได้รับบาดเจ็บ

...


จากการสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บที่เดินทางโดยสารมากับรถตู้คันดังกล่าว เล่าว่า พวกตนเป็นทหารเกณฑ์ สังกัดทหารเรือ โดยวันนี้เป็นผลัดพักปล่อยลากลับบ้าน ตนและเพื่อนๆ ได้เช่ารถตู้เหมาคันเพื่อเดินทางจากค่ายฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เดินทางกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดหนองบัวลำภู ในระหว่างที่เดินทางกลับนั้น พวกตนและเพื่อนๆ ก็หลับมาในรถจนมาเกิดเหตุดังกล่าว ตอนนี้ยังสับสนและยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยพนมสารคาม ได้แจ้งยอดผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 ราย และบาดเจ็บอีก 10 ราย มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอีก 1 ศพ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 ศพ โดยได้นำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลพนมสารคาม โรงพยาบาลสนามชัยเขต โรงพยาบาลราชสาส์น สรุปผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 เสียชีวิต 2 จากผู้โดยสารและคนขับรถบัสทั้งหมด 24 ราย


ทางด้าน. ร.ต.อ.สุนทร อมรเวช ร้อยเวร สภ.เขาหินซ้อน ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ รวบรวมหลักฐานต่างๆ โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าคนขับรถตู้เกิดการวูบหลับใน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.