หนุ่มแคนาดากับแฟนสาวนั่งรถไฟจะไปเที่ยวเกาะเต่า เกิดอยากสูบบุหรี่ ออกไปนั่งดูดตรงประตูรถ โชคร้ายไปถึงสถานีเจ็ดเสมียน จ.ราชบุรี มีการสร้างชานชาลาใหม่ยกระดับสูงขึ้น คาดขาไปฟาด พลัดตกลงไปเจอเป็นศพขาหักเลือดแห้งเกรอะกรัง


เวลา 12.45 น. วันที่ 21 มี.ค. 67 ร.ต.อ.รัฐนนท์ เกษมชัยสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย อยู่ใต้ชานชาลาสถานีรถไฟเจ็ดเสมียนแห่งใหม่ ม.1 ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรรพ.เจ็ดเสมียน และกู้ภัยสว่างราชบุรี


ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวต่างชาติ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นาย RALPH RYAN JOSEPH อายุ 24 ปี ชาวแคนาดา สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล นอนหงายเสียชีวิต อยู่ใต้ชานชาลาเจ็ดเสมียนแห่งใหม่ สภาพขาทั้งสองข้างมีบาดแผลฉกรรจ์ ขาข้างขวาหักผิดรูปและมีคราบเลือดแห้งติดอยู่ตามร่างกาย ค้นในตัวของผู้ตายพบกระเป๋าสตางค์ มีเอกสารต่างๆ และธนบัตรของไทย ที่คอของผู้เสียชีวิตพบสร้อยคอ 1 เส้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ใกล้กันพบรองเท้าของผู้ตาย 1 คู่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และหูฟังบลูทูธ 1 อัน ตกอยู่ 


จากการสอบถาม น.ส.โซน่า อายุ 23 ปี ชาวไอร์แลนด์เหนือ แฟนสาวของผู้เสียชีวิตทราบว่า แฟนหนุ่มได้เข้ามาเที่ยวเมืองไทยตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่วนเธอได้ตามมาวันที่ 17 มี.ค. เพื่อจะฉลองวันเกิดให้แฟนหนุ่มเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ก่อนเดินทางไปเที่ยวกันต่อที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี โดยเดินทางด้วยรถไฟสายบางซื่อ-กันตัง ตั้งแต่ช่วงเมื่อวานเย็น แต่เมื่อรถไฟวิ่งเข้าเขต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นช่วงเวลา 3 ทุ่มครึ่ง แฟนหนุ่มของเธอได้ขอออกไปสูบบุหรี่ ส่วนเธอหลับพักผ่อน พอช่วง 4 ทุ่มครึ่ง เธอเห็นแฟนเธอหายไปผิดปกติ จึงออกตามหาแต่ก็ไม่พบจึงแจ้งตำรวจท่องเที่ยว ให้ช่วยตามหาแฟนหนุ่ม จนบ่ายวันนี้ได้รับแจ้งจากตำรวจท่องเที่ยว ว่าพบร่างแฟนหนุ่มแต่เสียชีวิตแล้ว

...


ด้านกู้ภัยสว่างราชบุรี ให้ข้อมูลว่า ได้รับการประสานจากจนท.ตำรวจสภ.โพธาราม และสภ.เมืองราชบุรี ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหายจากขบวนรถไฟ ซึ่งคาดว่าอาจจะตกจากขบวนรถไฟ จึงประสานให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเร่งค้นหาตั้งแต่เขตอำเภอโพธารามถึงเขตอ.เมืองจ.ราชบุรี จึงเกณฑ์เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่มูลนิธิของเขตอำเภอเมือง เร่งค้นหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเที่ยงวันนี้ จึงได้รับการประสานจากหัวหน้างานสถานีรถไฟเจ็ดเสมียนแห่งใหม่ว่าพบศพชาวต่างชาติเสียชีวิต ให้ช่วยมาตรวจสอบว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ตามหาหรือไม่ จึงแจ้งจนท.ตำรวจพร้อมเดินทางเข้าตรวจสอบจนพบว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายดังกล่าวที่สูญหายไปจริง


จากการสอบสวน นายมากลา กัมพูชา อายุ 23 ปี ผู้พบศพคนแรก บอกว่าช่วงพักเที่ยง ตนจะเข้ามานอนพักที่ใต้ชานชาลาตรงจุดเกิดเหตุทุกวัน วันนี้ก็เช่นกันแต่พอตนเดินเข้ามาก็พบว่า มีคนนอนอยู่ จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงรีบออกมาแจ้งหัวหน้างานให้รีบโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ ก่อนที่หัวหน้างานจะมาดูแถวจุดเกิดเหตุจนพบรองเท้า และโทรศัพท์มือถือและหูฟังบลูทูธของผู้ตาย จึงถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน


ขณะเดียวกัน พ.ต.ต.ธนภัทร ทองไพบูลย์ สว.สืบสวน กก.1 บก.ทท.3 บช.ทท. ให้ข้อมูลว่า แฟนสาวที่มากับผู้ตายบอกว่า ได้เดินทางขึ้นรถไฟมากับผู้ตายจากสถานีที่กรุงเทพฯ เพื่อจะไปลงที่เกาะเต่า จนช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ผู้ตายบอกจะออกไปสูบบุหรี่ แต่เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. เห็นผิดสังเกตผู้ตายยังไม่กลับมาจึงโทรหาและแชตแต่ไม่ได้มีการตอบรับ จึงเดินตามหาก็ไม่เจอจึงรีบแจ้งนายสถานีให้ช่วยตรวจสอบทันที ซึ่งทางนายสถานีได้ตรวจเช็กแล้วคาดว่าขบวนรถไฟน่าจะอยู่แถวเขตอ.โพธาราม หรืออ.เมืองราชบุรี จึงได้ติดตามและค้นหากันทั้งคืนแต่ไม่เจอ จนมีโทรศัพท์แจ้งว่าพบผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติจึงรีบมาตรวจสอบว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่หายตัวไป จึงติดต่อแฟนสาวให้มาดูว่าใช่แฟนหนุ่มที่หายไปหรือไม่


ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบบริเวณพื้นปูนตรงพื้นชานชาลา พบเส้นขนคล้ายเป็นเส้นขนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชายรายดังกล่าว และมีคราบเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ขณะผู้ตายออกมานั่งสูบบุหรี่ตรงประตูรถไฟ ช่วงรถวิ่งผ่านชานชาลาแห่งใหม่ซึ่งยกสูง หัวเข่าของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายดังกล่าว ได้ไปเฉี่ยวกับขอบพื้นปูนชานชาลา จนทำให้ตกรถไฟ และถูกล้อรถไฟทับ แต่ขณะนั้นนักท่องเที่ยวรายนี้ยังไม่เสียชีวิต จึงพยายามคลานเพื่อไปขอความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากขาหักผิดรูปและมีบาดแผลฉกรรจ์ ทำให้มีเลือดออกมาก เสียชีวิตในเวลาต่อมา


เบื้องต้นทางตำรวจสภ.โพธาราม ได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ พร้อมเชิญผู้พบศพและพยานบุคคลทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.โพธาราม พร้อมประสานชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ  ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป.