พบทายาทสกุลดัง "อิศรางกูร ณ อยุธยา" ตกอับ ไร้งาน สิ้นเนื้อประดาตัว ต้องดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง และหลานอีก 2 คน เหตุถูกลูกเลี้ยงยืมเงิน และนำบ้านไปขายเพื่อมอบเงินให้ วอนให้กลับมาดูแล และช่วยเหลือบ้าง


เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบทายาทสกุลดัง "อิศรางกูร ณ อยุธยา" ตกอับ ไร้เงิน ไร้งาน แต่ยังต้องเลี้ยงดูแม่วัย 85 ปีที่ป่วยติดเตียง และหลานชายอีก 2 คนเพียงลำพัง ภายในบ้านเช่าเก่าๆ ย่านคลองสี่ 


ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 21 ม.7 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งสถานที่ดังกล่าวแบ่งเป็นห้องเช่าจำนวนกว่า 20 ห้อง ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางสาวนวรัตน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 64 ปี ที่กำลังทำกับข้าวอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าดังกล่าว ก่อนที่จะเล่าประวัติตนเองว่า มีเชื้อสายสกุล "อิศรางกูร ณ อยุธยา" มาจากคุณยายทวด คือ หม่อมหลวงจีบ อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งเป็นคุณยายของ พันโท อนงค์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ซึ่งก็คือคุณพ่อของตนเอง โดยเดิมทีตนไม่เคยเดือดร้อนหนักขนาดนี้ เมื่อก่อนอยู่ในฐานะถึงขั้นว่าดี โดยที่ครอบครัวดูแลมาอย่างดี

...


"ก่อนจะลำบาก ได้ทำอาชีพเปิดร้านอาหาร คาราโอเกะ รวมถึงแสดงภาพยนตร์มาหลายเรื่อง เคยแสดงกับ สรพงษ์ ชาตรี พระเอกดังมาโดยตลอด และเรารับเลี้ยงดูแลทั้งลูกและหลานของญาติพี่น้องมาหลายสิบชีวิต สมัยที่ยังมีเงินอยู่ แต่กิจการดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ก็พออยู่ได้ แต่มาลำบากแสนสาหัสก็คือลูกเลี้ยงที่เลี้ยงมาตั้งแต่วัยรุ่นสร้างความเดือดร้อนกับตน คือเขามาขอยืมเงินเพื่อจะไปประกอบธุรกิจ 500,000 บาท แต่ไม่พอ จึงได้นำบ้านซึ่งเป็นที่อาศัยชิ้นสุดท้ายนำไปขายเพื่อให้เงินเขาไป จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ลูกเลี้ยงยังไม่มีการติดต่อกลับมา และรับผิดชอบใดๆ"


นางสาวนวรัตน์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ลำบากมาก ไม่คิดว่าตนเองจะมีสภาพแบบนี้ จึงฝากวอนลูกเลี้ยง (นายสุริยะ) ให้กลับมาดูแลบ้าง หรือว่าให้ช่วยเหลือตนเองด้วยการเปิดร้านให้ตนขายของสักร้านก็ได้ เพราะตนยังพอทำได้อยู่ เพื่อนำรายได้ในแต่ละวันนำไปดูแลทั้งแม่ที่ป่วยติดเตียง และหลานชายอีก 2 คน ทั้งนี้ตนลำบากมาก จึงฝากวอนหากใครที่อยากจะมาเช่าเครื่องเสียงที่ตนเคยเปิดร้านอาหารอยู่ก็สามารถมาเช่าได้ เพื่อจะได้นำเงินไปต่อชีวิตในแต่ละวันได้.