เปิดใจลูกค้าร้านนวดแผนโบราณ ลืมเงินไว้ในร้าน 7,000 ก่อนเกิดทะเลาะวิวาทกับเจ้าของร้านที่หน้าร้าน เผยที่มากันทั้งครอบครัว เพราะตอนนั้นอยู่ที่ตลาดนัด ส่วนที่ทำร้ายลูกสาวเจ้าของร้าน เพราะถูกปาเงินใส่หน้าทำให้โมโห ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างแจ้งความ


จากเหตุการณ์ที่ลูกค้าร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ยกครอบครัวมาทำร้ายเจ้าของร้านนวด หลังจากนวดแล้วลืมเงินไว้ที่ร้าน โทรศัพท์กลับมาบอกที่ร้านให้หาเงินที่ลืมไว้ “ใต้หมอนที่นอนนวด” แต่เมื่อทางร้านช่วยกันหา แต่กลับไม่พบเงินจำนวนดังกล่าว ทำให้ลูกค้าโมโห และมีการใช้ถ้อยคำรุนแรงมาทางโทรศัพท์ 


ด้วยความที่เจ้าของร้านกลัวจะเสียชื่อร้าน จึงให้หมอนวดทั้งหมดช่วยกันหาเงินจำนวนดังกล่าว ว่าไปตกหล่นอยู่ในร้านตรงไหนหรือไม่ จนสุดท้ายมาเจอเงินในกระเป๋ากางเกงที่ลูกค้าใส่นวดอยู่ในตะกร้า จึงรีบโทรศัพท์กลับไปบอกลูกค้าว่าเจอเงินแล้ว ไม่ได้อยู่ที่ใต้หมอน แต่อยู่ในกางเกงที่ลูกค้าใส่นวดแล้วทิ้งไว้ในตะกร้า แต่ลูกค้าสาวรายนี้กลับพาเพื่อนๆ และสามีมาที่ร้าน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ตบตีกันชุลมุนที่หน้าร้าน     


ล่าสุดช่วงสายวันที่ 8 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ นางสาวพรภวิษย์ อินทุลักษณ์ 48 ปี ลูกค้าที่อยู่ในคลิปภาพเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนางสาวพรภวิษย์เปิดเผยว่า ตนมาใช้บริการร้านนวดแห่งนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้มาใช้บริการนวดปกติ โดยก่อนนวดได้วางเงินสดประมาณ 7,000 บาท ไว้ข้างหมอนพร้อมกับโทรศัพท์ และสร้อยคอทองคำ เมื่อนวดใกล้เสร็จหมอนวดได้ยกหมอนที่ตนนอนออกมาวางที่ตักหมอนวด และก็ให้ตนมานอนที่หมอนเพื่อนวดคอ บ่า ไหล่ และหัว ตอนนั้นของทุกอย่างยังอยู่ที่เดิม แต่ตอนที่ตนเองลุกขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า จำไม่ได้ว่าหยิบเงินมาด้วยหรือไม่ เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็มานั่งกินน้ำอุ่นที่ร้าน ก่อนจะออกไปทำธุระที่ห้างสรรพสินค้า จนพาครอบครัวไปซื้อของที่ตลาดนัดวัดนาคู ขณะกำลังจะหยิบเงินจ่ายค่าสินค้า จึงรู้ว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้หายไป เลยโทรศัพท์ไปที่ร้านเพื่อให้ร้านช่วยดูเงินที่วางอยู่ข้างหมอนว่ามีเงินของตนอยู่หรือไม่ แต่ทางร้านบอกว่าไม่มี เวลาผ่านไปประมาณ 4 นาที ตนเองได้โทรศัพท์กลับไปที่ร้านอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 ว่าให้ช่วยดู ที่กระเป๋ากางเกงที่ตนเองใส่ตอนนวดว่ามีหรือไม่ แต่ทางร้านได้บอกว่าให้พนักงานช่วยกันหาแล้วแต่ก็ไม่มี ทางร้านบอกด้วยว่าตนเองอย่ามาบูลลี่ทางร้าน นำเงินมาด้วยจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่ตนบอกว่าหมอนวดที่นวดนั้นเห็นเงินจำนวนนี้ เมื่อทางร้านยืนยันว่าไม่พบ จึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นตนจะไปแจ้งความเพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดว่าเงินของตัวเองไปอยู่ตรงไหน ทางร้านก็ท้าให้ตนไปแจ้งความก่อนจะวางสายกันไป  

...


กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 4 นาที ร้านได้โทรศัพท์กลับมาบอกว่า เจอเงินของตนแล้วอยู่ในกระเป๋ากางเกงก้นตะกร้าให้เข้ามาเอา ซึ่งขณะนั้นตนและครอบครัวอยู่ที่ตลาดนัด จึงพากันไปทั้งครอบครัวเพื่อไปเอาเงิน ไม่ได้ยกพวกหวังไปรุมทำร้าย ขณะที่สามีขับรถเพื่อพาตนไปที่ร้านรถค่อนข้างติด ก็มีสายโทรศัพท์ทางร้านโทรกลับมาอีกครั้งว่าจะเข้ามาเอาเงินไหม ตนก็บอกว่ากำลังใกล้จะถึงแล้วเพราะรถติด เมื่อมาถึงร้านจึงอยากทราบว่าคนที่โทรศัพท์คุยกับตนเป็นใคร เพราะแสดงกิริยากับตนซึ่งเป็นลูกค้าไม่ดี เมื่อคุยกันในร้านเริ่มไม่รู้เรื่อง เจ้าของร้านจึงให้ออกมาคุยกันด้านนอก ขณะเปิดประตูออกมา ลูกสาวเจ้าของร้านก็ตะโกนบอกแม่ว่าตนจะตบเขา ทั้งๆ ที่ตนยังไม่ได้พูดหรือทำอะไร พอออกมาคุยกันที่หน้าร้าน สามีของพยายามอธิบายให้ลูกสาวเจ้าของร้านฟังว่า ที่โทรศัพท์มาเพราะต้องการเงินคืน แต่ลูกสาวเจ้าของร้านก็พูดสวนกลับมาตลอด จนสุดท้ายลูกสาวเจ้าของร้านได้เอาเงินสดของตนเขวี้ยงใส่หน้าตน ทำให้โมโหควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จนเป็นเหตุการณ์ตามในคลิป  


“อยากเรียกร้องให้ร้านเอาคลิปตั้งแต่ต้นมาลง จะได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายอยากจะฝากกับร้าน ถ้าลูกค้ามีปัญหาก็อยากจะให้พูดกับลูกค้าดีๆ เพราะว่าลูกค้าที่ลืมเงินไว้ก็อยากได้เงินคืน อยากให้ทางร้านช่วยซัพพอร์ตเท่าที่ร้านสามารถซัพพอร์ตได้ เราไม่ได้อยากมีปัญหาอะไรกับร้าน เราแค่อยากได้เงินคืน ซึ่งตอนหลังจากทะเลาะกันแล้วแม่ของคู่กรณี และหมอนวด ก็เดินมาขอโทษ และยกมือไหว้ ซึ่งก็อยากถามว่าถ้าลูกค้าผิด ทำไมแม่และหมอนวดต้องเดินมาขอโทษ”


ส่วนในเรื่องคดีความ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ได้เดินทางไปแจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.บัณฑิต ทรัพย์คง รอง.สว.สอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในข้อหาที่ตนถูกปาเงินใส่หน้า และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และทำร้ายร่างกาย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ร้อยเวรเป็นคนเดียวกันกับที่คู่กรณีไปแจ้งความไว้ ซึ่งจะมีการเรียกไปสอบสวนในอาทิตย์หน้าอีกครั้ง.