รองผู้การนนท์ เผยเหตุการณ์ ปธ.ชุมชนวัดโพธิ์เผือก บางกรวย พร้อมพวกรุมทำร้ายผู้ช่วย สส.ก้าวไกล เขต 2 นนทบุรี บาดเจ็บสาหัส เป็นเรื่องส่วนตัว ผกก.บางกรวย ระบุผู้ก่อเหตุมีประมาณ 20 คน สาเหตุจากผู้เสียหายเตรียมลงสมัครเลือกตั้งในพื้นที่ของอีกฝ่าย พรุ่งนี้ทางกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาจะมามอบตัว


เวลา 12.00 น. วันที่ 16 ม.ค. 67 ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี นายปริญญา เล็กกมล หรือตู่ อายุ 46 ปี ประธานชุมชนวัดโพธิ์เผือก อ.บางกรวย พร้อมพวก รุมทำร้ายร่างกาย นายกิตติภัทร หรือเบน สุริยจันทร์ อายุ 44 ปี ผู้ช่วย สส.นนทบุรี พรรคก้าวไกล เขต 2 ได้รับบาดเจ็บสาหัส


พ.ต.อ.สมพล รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี กล่าวว่า คดีที่เกิดเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างประธานชุมชนกับผู้ช่วย สส. มีการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน เป็นความขัดแย้งส่วนตัวกันที่มีมาก่อนหน้าที่จะมีการทำร้ายกัน เท่าที่มีการสอบปากคำเป็นเรื่องส่วนตัวที่มีการสะสมกันมา ยังไม่ได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางผู้ก่อเหตุจะเดินทางเข้ามามอบตัว คดีนี้ทางพนักงานสอบสวนทำอย่างตรงไปตรงมา และละเอียดรอบครอบ ไม่มีอิทธิพลใดๆ จะเข้ามาเบี่ยงเบนประเด็น ขอเวลาให้ตำรวจทำงาน และจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ ส่วนข้อหาที่จะแจ้งผู้ก่อเหตุ คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย จะบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ต้องรอผลแพทย์ยืนยัน และรอสอบปากคำผู้เสียหายก่อน 


ขณะที่ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุภรรยาของผู้รับบาดเจ็บเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุเพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้งหมด มีประมาณ 20 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส 

...


ส่วนสาเหตุการรุมทำร้ายร่างกายผู้ช่วย สส. เกิดมาจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวที่ นายกิตติภัทธ ผู้ช่วย ส.ส.ของนางปัญญารัตน์ เขต 2 เตรียมลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นในพื้นที่ของ นายอนุสรณ์ ส.ส.นนทบุรี เขต 3 จึงสร้างความไม่พอใจให้กับ นายปริญญา ประธานชุมชนวัดโพธิ์เผือก คนสนิทของนายอนุสรณ์ ก่อนที่มาพบเจอกันในงานเลี้ยงสังสรรค์และเกิดเรื่องขึ้น


ด้าน นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ ส.ส.นนทบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ผู้ช่วย ส.ส.ของตน คือ นายกิตติภัทร หรือเบน สุริยจันทร์ อายุ 44 ปี ถูกคู่กรณีคือ นายปริญญา เล็กกมล อายุ 46 ปี ประธานชุมชนวัดโพธิ์เผือก พร้อมพวกกว่า 20 คน รุมทำร้ายร่างกายจนต้องหนีตายเข้าไปหลบอยู่ในร้านสะดวกซื้อ เหตุเกิดในวัดโพธิ์เผือก ถ.บางกรวยไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยเหตุการณ์เกิดช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 13 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ


หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังจากมีการจัดงานกิจกรรมวันเด็กได้มีการจัดกิจกรรมสังสรรค์กัน ในกลุ่มของ นายอนุสรณ์ หรือเอ๊ะ แก้ววิเชียร สส.นนทบุรี เขต 3 พรรคก้าวไกล เขตพื้นที่ อ.บางกรวย นายกิตติภัทร หรือเบน สุริยจันทร์ อายุ 44 ปี ผู้ช่วย สส.ของนางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.นนทบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล เขตอำเภอเมือง ได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ด้วย ปรากฏว่าในระหว่างนั้น นายปริญญา เล็กกมล คนสนิทของ นายอนุสรณ์ สส.นนทบุรี เขต 3 ได้เดินเข้าไปตบหน้า นายกิตติภัทร 4-5 ครั้ง จนนายกิตติภัทรล้มลงกับพื้น ก่อนที่ลูกน้องของนายปริญญาจะวิ่งเข้ามารุมทำร้ายด้วยการเตะกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ วิ่งหนีตายเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานร้านสะดวกซื้อ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.บางกรวย และย้ายไปรักษาตัวต่อที่ รพ.หัวเฉียว แพทย์ได้ตรวจร่างกายพบว่านายกิตติภัทรได้รับบาดเจ็บกะโหลกร้าว ใบหน้าบวมฟกช้ำ ตาปิดหนึ่งข้าง และแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง


พระครูปลัดนนท์ กิตติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เผือก เผยว่า ประธานชุมชนนั้นปกติเขาเป็นคนที่มีนิสัยตรงไปตรงมา เท่าที่อาตมาสัมผัสมาไม่ได้เข้าข้างลูกศิษย์ อาตมาอยู่ที่นี่มา 9 ปี เข้าปีที่ 10 มีอะไรเกี่ยวกับชุมชนช่วยกันประสานงาน ช่วยเหลือคนอื่นเขาทำงานเพื่อส่วนรวม และเป็นคนจริง ไม่ได้เป็นนักเลง แต่ใครอย่ามาเบียดเบียนเขา เป็นเราเราก็ไม่ยอมใครมาเบียดเบียนเรา เหมือนกับที่มาเบียดเบียนวัด ซึ่งเป็นอาตมาก็ไม่ยอมเช่นกัน อาตมาเคยพูดบอกไว้ว่า ใครไม่ชอบพระอาจารย์ก็ไม่ต้องเข้าวัดนี้ เอาที่เขาสะดวกใจ ซึ่งอาตมาพูดอย่างนี้กับลูกศิษย์ ลูกศิษย์จึงรู้ว่าพระอาจารย์เป็นคนตรง ในวันนั้นมีกลุ่มลูกศิษย์อาตมามาร่วมงานเกือบ 300 คน ลูกศิษย์ใกล้ชิดเขารู้เขาบอกต้องมาเพื่อให้อาจารย์มีกำลังใจ พระอาจารย์ก็พูดตอนเปิดว่าใครรักที่พระอาจารย์เป็นแบบนี้ ก็รักกันไปนานๆ ใครไม่รักเห็นว่าพระอาจารย์ไม่ถูกใจเขา พระอาจารย์ไม่ว่าอะไรก็เชิญวัดอื่นได้

...


เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เผือก กล่าวว่า คนชุมชนวัดโพธิ์เผือกเป็นคนจริงมาตั้งแต่ไหนแล้ว แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมารังแก เชื่อว่าประธานชุมชนลูกศิษย์อาตมาถูกรังแกจากภายนอกมาก่อน จนทำให้เขาเก็บเรื่องไว้ในใจเรื่อยมา จนกระทั่งมาเจอกันในงาน แล้วนั่งคุยเพื่อปรับทัศนคติ ปรับความเข้าใจกัน แต่อีกฝั่งคงมีกำแพงอยู่ในใจ ทั้งๆ ที่อยากจะทำงานร่วมบูรณาการทำพื้นที่ให้ดี แต่กลายเป็นว่าไม่ลดลาวาศอกให้กัน ทำให้อีกฝ่ายทนไม่ไหวจึงเกิดเรื่องขึ้น ประธานชุมชนใจร้อนตบหน้าคนเจ็บไป 2 ที แล้วก็มีคนมาห้ามมาแยกออกจากนั้น ไม่ได้มีใครไปรุมทำร้ายตามที่อีกฝ่ายให้ข่าวออกไป จากคลิปจะเห็นว่าเขาเดินออกจากวัดไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อนั่งรอรถพยาบาลมาช่วยเหลือด้วยซ้ำ


พระอาจารย์นนท์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้พระอาจารย์เคยพูดบอกเอาไว้แล้วว่าไม่ควรเอาการเมืองเข้ามาในวัด หน้าที่คือคุณคือช่วยบำบัดทำนุบำรุง บำบัดทุกบำรุงสุขให้กับคนในท้องถิ่น ไม่ใช่มาหาความวุ่นวายให้กับคนในท้องถิ่น และเอาความวุ่นวายเข้ามาในวัดแบบนี้ อยากจะฝากไปถึงต้นสังกัด ควรจะพิจารณาไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคที่ดูแล สส.ทั้งสองคนด้วยว่า สส.คนไหนทำงานจริง และ สส.คนไหนหลงในอำนาจ มาทำให้พระคุณเจ้าวุ่นวาย ทั้งๆ ที่เป็นงานที่สร้างความสามัคคีให้กับชุมชน แต่เขามาทำให้แตกความสามัคคีกันจนกลายเป็นข่าวขึ้นมา.