แม่เหยื่อทัวร์มรณะรายที่ 15 "แตงโม" สาววัย 29 ปี เผยตอนเฝ้าอาการลูกที่โรงพยาบาลประจวบฯ ได้ยินตำรวจสอบคนขับรถที่นอนอยู่เตียงข้างๆ คนขับบอกว่า ไม่สบาย หนาวสั่น แล้วกินยาจนง่วง หลับใน มือหลุดจากพวงมาลัย
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุสลด รถทัวร์โดยสารประจำทางกรุงเทพฯ-นาทวี เสียหลัก ลงไหล่ทางชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ บริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ กม.331+450 หน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต จำนวน 14 ราย และบาดเจ็บหลายราย
วันที่ 10 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีรถทัวร์มรณะดังกล่าว ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นผู้โดยสารชื่อ น.ส.มณฑิรา ดีมา หรือ แตงโม อายุ 29 ปี โดยญาติได้ไปรับศพจาก รพ.ประจวบคีรีขันธ์ กลับมาตั้งสวดอภิธรรมตามประเพณี ที่วัดประชานิคม 2 ต.คุริง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ตั้งแต่เมื่อตอนเย็นของวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติๆ

นางพรทิพย์ อาจหาญ อายุ 58 ปี แม่ของ น.ส.มณฑิรา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง และลาออกแล้ว ก่อนเกิดอุบัติเหตุลูกสาวได้เดินทางไปร่วมงานศพของย่าพร้อมกับแม่ที่ จ.นครสวรรค์ ก่อนที่จะนั่งรถไปส่งแม่ที่ระยอง และเดินทางต่อมาที่สถานีขนส่งสายใต้ เพื่อที่เดินทางไปทำงานที่สงขลา
...
นางพรทิพย์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้กลับจากจังหวัดระยองและกำลังจะเดินทางไปที่จังหวัดสงขลาบ้านแฟน เพื่อไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ลูกสาวโทรมาบอกว่าได้ขึ้นรถทัวร์แล้วเมื่อตอน 2 ทุ่ม และสั่งให้แฟนรอรับที่สงขลา หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้อีก และมาทราบภายหลังว่าเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ประจวบฯ
นางพรทิพย์ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุตอนแรกตนได้รับแจ้งว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว เพราะรายชื่อตามที่นั่งนั้นตรงกับคนตาย แต่สุดท้ายมารู้ทีหลังว่าลูกสาวยังไม่ตาย เพราะคนที่ตายเป็นชาวเมียนมา คาดว่าน่าจะสลับที่นั่งกัน โดยลูกสาวบาดเจ็บสาหัส ซึ่งในตอนนั้นก็ยังมีความหวังว่าจะปลอดภัย แต่ลูกสาวอาการโคม่า หายใจด้วยตัวเองไม่ได้ และมีอาการคอหัก ซึ่งหมอพยายามยื้อชีวิตแล้วแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็เสียชีวิต โดยรักษาตัวอยู่ 3 วัน ลูกสาวจากไปอย่างสงบ
นอกจากนี้ นางพรทิพย์ บอกว่า ช่วงที่ตนเฝ้าอาการบาดเจ็บของลูกสาวอยู่ในโรงพยาบาลนั้น ได้มีพนักงานสอบสวนเข้ามาสอบปากคำคนขับรถทัวร์คันเกิดเหตุ ที่นอนรักษาอยู่บนเตียงที่ใกล้กับลูกสาวตน และได้ยินเขาสอบถามกันว่า ก่อนเกิดเหตุคนขับรถทัวร์มีอาการเป็นไข้ หนาวสั่น และได้กินยาแล้วทำให้หลับใน มือปล่อยออกจากพวงมาลัย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ตนไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อร่างกายไม่พร้อม แล้วทำไมยังฝืนขับต่อ ขอให้คนขับมือสองมาขับแทนก็ได้ ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น จนมีคนตายไปถึง 15 คน.