พบคลินิกรักษาเน็ตไอดอลสาวด้วยวิธีเผายาหน้าท้อง แล้วไฟลุกไหม้คลอกร่างสาหัส เป็นสถานเสริมความงาม ไม่ใช่คลินิกแผนไทย จึงอาจไม่ได้มาตรฐาน หมอไม่มีความชำนาญ สธ.เตรียมไปตรวจ หากพบผิดฟันไม่เลี้ยง ด้านผู้เสียหายเผยเหตุเกิดนานร่วมปี แรกๆ ทั้งคลินิก หมอมาดูแลดี หลังๆ เริ่มหาย สุดท้ายเงียบไปเฉยๆ ต้องควักเงินรักษาตัวเองอีกกว่า 3 แสน
เวลา 10.00 น. วันที่ 4 ธ.ค.66 กัน จอมพลัง พร้อมด้วยเน็ตไอดอลสาวผู้เสียหายได้เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบกับทางหมอและคลินิกแห่งหนึ่งย่านบางเขน หลังเน็ตไอดอลสาวผู้เสียหายรายนี้ได้ไปใช้บริการที่คลินิกแห่งหนึ่ง แล้วถูกไฟลุกไหม้ตัวจากวิธีการรักษาที่เรียกว่า เผายา จนทำให้อาการสาหัสต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่า 2 เดือน โดยมี นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข ตำแหน่งผู้ทรงวุฒิ และ ผอ.ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวด้วยตนเอง
กัน จอมพลัง กล่าวว่า ในระหว่างที่เกิดเหตุที่ไฟกำลังลุกไหม้อยู่บนร่างคนเจ็บแทนที่หมอจะมีสปิริตมาช่วยดับไฟ แต่หมอกลับเลือกวิธีวิ่งหนี โดยที่ภายในห้องที่ทำการรักษาไม่มีอุปกรณ์ที่เตรียมพร้อมจะดับไฟเลยในกรณีที่เกิดความผิดพลาดมา จึงทำให้อาการของน้องบาดเจ็บสาหัสจากที่ไฟที่ลุกไหม้อยู่นาน แถมหลังเกิดเรื่องแล้วหมอที่รักษากับทางคลินิกก็ปัดความรับผิดชอบกันไปมา ปล่อยให้น้องผู้เสียหายต้องควักเงินรักษาตัวเองอีก 3 แสนกว่าบาท เมื่อน้องผู้เสียหายขอให้ทางหมอกับทางคลินิกช่วยเยียวยาก็ไม่มีใครช่วยเหลือ ทำให้น้องต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากตน แถมตนได้ข่าวมาว่าตอนนี้หมอที่รักษาน้องเขาผิดพลาดยังเดินทางไปต่างประเทศอยู่เลย แต่น้องกลับต้องวิ่งตามเรื่องเพื่อขอความช่วยเหลือมานานนับปี
...
กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า จากคลิปเหตุการณ์ที่ได้รับมา อดสงสัยไม่ได้ว่าทางคลินิกแห่งนี้เปิดให้บริการในการรักษาแบบนี้ได้อย่างไร ไม่มีแม้กระทั่งอุปกรณ์เซฟตี้ดูแลความปลอดภัยให้ผู้ใช้บริการเลย และวิธีการรักษาแบบนี้เปิดรับการรักษาแบบถูกต้องไหม สามารถรักษาด้วยวิธีการแบบนี้ได้หรือไม่ แล้วถ้ายังเปิดรักษาแบบนี้อยู่แล้วเกิดเหตุการณ์เมื่อกับน้องผู้เสียหายขึ้นมาอีกจะทำยังไง และที่น่าสงสัยไม่แพ้กันคือเรื่องคดีที่น้องผู้เสียหายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.บางเขน จนเวลาผ่านมาจะครบปีแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย ทั้งๆ ที่ปัจจุบันนี้น้องผู้เสียหายยังคงต้องเดินทางไปรักษาตัวจากบาดแผลไฟไหม้ที่เรื้อรังจนไม่สามารถออกไปทำงานได้ จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมจากทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ช่วยเหลือเยียวยาและตรวจสอบในเรื่องนี้

น.ส.เอ เน็ตไอดอลสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.65 ในระหว่างที่ตนกับแฟนหนุ่มเดินทางไปจัดกระดูกที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านบางเขน ซึ่งเมื่อตนจัดกระดูกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางพนักงานของคลินิกได้เสนอให้ตนรับคอร์สเพิ่มเติม โดยให้เลือกระหว่าง ครอบแก้ว ฝังเข็มที่ใบหน้า กับวิธีเผายาสมุนไพรที่หน้าท้อง แต่เนื่องจากตนเองเพิ่งไปฉีดโบท็อกซ์ที่ใบหน้ามา และมีงานที่เพิ่งรับไปจึงเกรงว่าการรับบริการด้วยวิธีอื่นจะกระทบกับงาน จึงเลือกเพียงวิธีการเดียวคือการเผายาด้วยสมุนไพรที่หน้าท้องเท่านั้น โดยในระหว่างการใช้บริการนั้น ทางหมอได้นำสมุนไพรตัวยาต่างๆ มาโปะที่หน้าท้อง จากนั้นจึงนำสลิงที่บรรจุแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 95% มีฉีดใส่สมุนไพรที่อยู่หน้าท้องแล้วลงมือจุดไฟ แต่ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นมา ทำให้ไฟลุกลามติดไปรอบตัวของตน ซึ่งในตอนนั้นตนเองก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกในระหว่างที่ไฟลุกขึ้นมาติดตัว ได้แต่ร้องออกมาด้วยความตกใจ ส่วนหมอที่ทำการรักษาได้วิ่งหนีออกไปนอกห้อง ทำให้แฟนหนุ่มของตนที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามใช้หมอนช่วยตีดับไฟ แต่ไฟไม่ดับจนกระทั่งแฟนหนุ่มของตนจับตนนอนลงไปกับพื้น แล้วให้ตนกลิ้งไปมาเพื่อให้ไฟดับลง จนกระทั่งเมื่อไฟดับแล้ว หมอคนดังกล่าวจึงวิ่งเข้ามาพร้อมกับยกมือขอโทษตนเอง พร้อมกับพูดว่าจะดูแลเยียวยารักษาให้กลับมาเหมือนเดิม
น.ส.เอ เน็ตไอดอล กล่าวว่า หลังจากนั้นตนถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาทึ่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งแพทย์ระบุว่า ร่างกายตนถูกไฟคลอกในระดับที่ 3 ทำให้ต้องทำการพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน โดยในระยะแรกนั้นตนต้องเข้าออกห้องผ่าตัด 2-3 วันต่อครั้ง ซึ่งทางคลินิกกับหมอยังมาเยี่ยมและมาดูแลค่ารักษาให้กับตนในช่วงนั้น โดยที่ตนได้ใช้ประกันที่ทำไว้จ่ายค่ารักษาด้วยอีกส่วนหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อใกล้ออกจากโรงพยาบาล ทางคลินิกก็แจ้งมาว่าทางหมอที่คลินิกที่ทำการรักษาตนจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าจ่ายใช้ต่างๆ ทั้งหมด แต่สุดท้ายทางหมอคนดังกล่าวก็มาบอกกับตนเองว่า บาดแผลจากการถูกไฟไหม้คงต้องใช้เวลาในการรักษาอีกเป็นปีๆ ซึ่งหมอคงไม่สามารถดูแลเยียวยารักษาได้ตลอดไป ขอให้ตนเป็นผู้ดูแล
รักษาด้วยตัวเองต่อไป หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อแสดงความรับผิดชอบใดๆ จากทางคลินิกและหมอคนดังกล่าวมาอีกเลย มีแต่ตนเท่านั้นที่พยายามติดต่อไป แต่ก็ถูกปฏิเสธโยนความรับผิดชอบกันไปมา
น.ส.เอ เน็ตไอดอลสาว กล่าวว่า การที่ตนเดินทางมาร้องเรียนกับทางกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ ไม่ได้ต้องการมาทำลายชื่อเสียงหรือเกียรติของคนเป็นหมอ เพราะอาชีพนี้มีเกียรติมีคุณค่ามาก แต่ตนมาขอให้ทางหมอที่ทำการรักษาตนแล้วเกิดความผิดพลาดออกมาดูแลรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ปล่อยทิ้งคนไข้ที่ไว้ใจให้อยู่ในการดูแลรักษาแบบนี้ ไม่ใช่มีแต่น้ำลายที่บอกตนหลังเกิดเหตุว่า ไม่ต้องห่วงจะดูแลรักษากันไป แต่ที่ผ่านมากลับไม่เคยเหลียวแลเลย หนำซ้ำคดีที่ตนไปแจ้งความเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญากับทางคลินิกและหมอที่ทำการรักษากลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย จนเวลาผ่านมาจะครบปีแล้ว จนเคยมีความคิดแวบหนึ่งเข้ามาว่า ตนไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ต้องกลับบ้านมาดูแลเยียวยารักษาตัวเองโดยที่ออกไปทำงานไม่ได้
...
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษากระทรวง ในฐานะ ผอ.ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ทาง รมว.สาธารสุขได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว และมอบหมายให้ตนนำทีมกฎหมายและลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเอกชนที่เปิดทำการรักษาด้วยวิธีการแบบนี้ว่าได้รับการอนุญาต มีมาตรฐานในการรักษาถูกต้องหรือไม่ เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร รวมทั้งการประสานงานกับทางแพทยสภาที่ทำหน้าดูแลตรวจสอบแพทย์และหมอทั่วประเทศว่ากระทำผิดตามกฎของแพทยสภาหรือไม่ ส่วนทางกระทรวงจะเข้าไปดูในเรื่องสถานประกอบการของคลินิกว่าขออนุญาตดำเนินกิจการถูกต้องหรือไม่ แต่จากที่ตรวจสอบและดูจากคลิปแล้ว พบว่าคลินิกแห่งนี้ได้จดทะเบียนขออนุญาตใช้เป็นสถานที่เสริมความงาม ไม่ได้ขออนุญาตเปิดทำการรักษาแบบแพทย์แผนไทย ซึ่งผิดมาตรฐาน ส่วนหมอที่ทำการรักษาเป็นหมอจริง แต่ต้องไปตรวจสอบในเรื่องความรู้ความชำนาญในการรักษาด้วยวิธีนี้จริงหรือไม่ ซึ่งพบว่ามีความผิดในหลายประเด็นในตอนนี้คือ กระทำผิดมาตรฐานและกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทางทีมกฎหมายกระทรวงสาธารณสุขจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อีกครั้ง หลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกแห่งนี้ในช่วงบ่าย และจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับผู้ที่มาใช้บริการต่อไป