เจ้าหน้าที่ พศ.ประสานตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ บุกจับพระสงฆ์ไม่ยอมอยู่วัด แอบเช่าห้องพักอยู่ลำพังเดือนละพันสาม ย่านเมืองนนท์ อ้างป่วยหูแว่ว-รักษารากฟัน จึงมาเช่าห้องอยู่เพื่อสะดวกต่อการเดินทางไป รพ.
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 พ.ย. 66 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจ กล้าที่จะก้าว ได้ประสาน นายคม ภัทรกุลประเสริฐ ผอ.สำนักพุทธ และ พ.ต.อ.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส. เข้าตรวจสอบภายในซอยสามัคคี 9 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีชายแต่งกายเหมือนพระสงฆ์มาเช่าห้องอยู่ภายในซอย จำนวน 3 รูป จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบลงพื้นที่ตรวจสอบ และเชิญตัวมาสอบถามรายละเอียด
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเช่าเลขที่ 109 พบชายหัวโล้นคล้ายพระสงฆ์ สวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์สีขาวตัวเดียว ไม่ใส่เสื้อ จึงเรียกออกมาสอบถาม ภายในห้องพบจีวร บาตร อุปกรณ์ออกกำลังกาย และข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันจำนวนมาก อยู่ภายในห้องลักษณะเหมือนพักอาศัยอยู่มานาน ทราบชื่อ พระสุรพล ธมมรโต หรือ นายสุรพล เศรษฐยานนท์ อายุ 64 ปี บวชเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2565 ที่วัดบ้านขะยูง ต.ห้วยตามอญ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
จากการสอบถาม พระสุรพล ธมมรโต กล่าวว่า อาตมายืนยันว่าเป็นพระจริง มาเช่าห้องพักอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนกว่า ในราคา 1,300 บาท เนื่องจากป่วย มีอาการหูแว่ว และรักษารากฟัน ต้องมารักษาตัวที่ รพ.สงฆ์ ใน กทม. จึงมาเช่าห้องอยู่ใน จ.นนทบุรี เพื่อสะดวกในการเดินทาง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายประจำวันนั้น อาตมามีโยมอุปัฏฐากดูแล และออกบิณฑบาตรแถวย่านรังสิต โดยนั่งรถประจำทางไป สำหรับอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ ญาติโยมเป็นคนนำมาให้เพื่อให้อาตมาออกกำลังกาย
...
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักพุทธ จ.นนทบุรี ได้โทรศัพท์สอบถามไปทางเจ้าอาวาสวัดบ้านขะยูง เรื่องสถานะของพระสุรพล ซึ่งทางเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวจำพระสุรพลไม่ได้ สอบถามจนทราบว่า ได้มีการบวชพระจริง แต่บวชที่วัดสาขา ซึ่งเจ้าอาวาสให้คณะพระผู้ปกครองสงฆ์ จ.นนทบุรี ตรวจสอบและตัดสิน เพราะเนื่องจากเป็นพระสงฆ์ ไม่สามารถมาเช่าห้องพักอยู่ และไม่ได้ขออนุญาตออกจากวัดต้นสังกัด
หลังจากพระครูศรีนนทวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดบางแพรกใต้ และที่ปรึกษาพระวินยาธิการ จากวัดบางแพรกใต้ เดินทางเข้าสอบปากคำพระสุรพล ซึ่งพบว่ามีความผิดตามวินัยสงฆ์ ซึ่งพระไม่สามารถไปเช่าห้องหรืออยู่ที่บ้านได้ และไม่ได้ติดต่อคณะสงฆ์ใน จ.นนทบุรี และไม่ได้อยู่เอาพรรษาที่ผ่านมา จึงตัดสินให้สึกออกจากความเป็นพระทันที.