ผู้ใช้รถใช้ถนนสายเอเชีย เดือดร้อน "ชุดจราจรกลาง ภ.จว.สิงห์บุรี" หรือ "ชุดเฉพาะกิจผู้การ" เรียกตรวจยัดใบสั่งขับรถเร็ว บางคนระบุเป็นผู้ต้องหาต้องเดินทางมาเสียค่าปรับ ชี้เป็นการหมกเม็ดตั้งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตำรวจชั้นผู้น้อยไม่อยากมาแต่ขัดนายไม่ได้ ทั้งยังขัด พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ ที่ไม่ให้ระบุตัวเลยในใบสั่ง

วันที่ 10 พ.ย. 66 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านผู้เดินทางถนนสายเอเชียขึ้น-ลง ภาคเหนือ ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของ ชุดจราจรกลาง ภ.จว.สิงห์บุรี โดยส่วนใหญ่จะได้รับใบสั่งความเร็วของชุดจราจรกลาง ภ.จว.สิงห์บุรี พร้อมระบุในใบสั่งให้ชำระค่าปรับ จำนวนเงิน 1,000 บาท ชื่อผู้ออกใบสั่ง พ.ต.ท.ภูสิษฐ์ ก้อนทอง สว.(สอบสวน) สภ.พรหมบุรี ใช้รหัสวิทยุ พรหมบุรี 61 สถานที่ออกใบสั่ง ถนนสายเอเชีย หมวดทางหลวงพรหมบุรี ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี 

  

ทั้งนี้ ผู้ใช้รถบางคนจะโดนลักษณะออกหมายเรียกผู้ต้องหา ให้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เพราะต้องเดินทางไปถึงสิงห์บุรี เพื่อชำระค่าปรับ

  

จากการตรวจสอบเชิงลึกทราบว่า ชุดจราจรกลางของ ภ.จว.สิงห์บุรี จัดตั้งขึ้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการจัดตั้งชุดจราจรกลางของแต่ละกองบังคับการ จะต้องทำเรื่องขออนุญาตออกกฤษฎีกาก่อนถึงจะจัดตั้งเป็นชุดจราจรกลางได้ เท่าที่ทราบมาทั้งประเทศมีเพียง 2 หน่วย คือ ภ.จว.เชียงใหม่ กับ บก.จร.ของนครบาลเท่านั้น ส่วนจราจรกลางของ ภ.จว.สิงห์บุรี ที่จัดตั้งขึ้นนั้น เป็นการจัดตั้งขึ้นของ ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี การบังคับบัญชาได้ขึ้นตรงต่อ ผบก.ภ.จว. สิงห์บุรี ตามภาษาชาวบ้านเรียกว่า "ชุดเฉพาะกิจผู้การ" ซึ่งมีมาหลายปีแล้ว และได้รับการร้องเรียนอยู่เป็นประจำ เท่าที่ทราบมาชุดดังกล่าว จะดึงตำรวจตามโรงพักต่างๆ มาสังกัดชุดเฉพาะกิจจราจรกลาง เวลาตั้งด่านตำรวจนายใดที่มาช่วยราชการชุดเฉพาะกิจ ออกใบสั่งในพื้นที่ ก็จะใช้ใบสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่ตรงนั้นเป็นผู้ออกใบสั่งแทนตำรวจคนอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาข้อกฎหมาย 

...


นอกจากนี้ทราบมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลางชั้นผู้น้อย รวมถึงหัวหน้าชุดระดับสารวัตร ไม่อยากมาทำงานชุดเฉพาะกิจนี้แล้ว เพราะทราบว่าชุดดังกล่าวจัดตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหากมีปัญหาการร้องเรียนขึ้นมา เจ้าหน้าที่หลายคนจะได้รับผลกระทบต้องโดนตั้งกรรมการสอบสวนวินัยไปตามๆ กัน แต่ติดตรงที่ผู้บังคับการคนใหม่ไม่ยอมให้ยุบชุดเฉพาะกิจฯ เพราะรายได้จากชุดเฉพาะกิจดังกล่าวถือว่าเป็นกระเป๋าสตางค์ใหญ่ ทำให้ตำรวจชั้นผู้น้อยต้องทำตามคำสั่ง เพราะไม่กล้าจะขัดใจผู้บังคับบัญชา กลัวจะถูกกลั่นแกล้ง จึงต้องรับชะตากรรมในคำสั่งแบบผิดๆ 


นอกจากที่กล่าวมานี้ ปัจจุบันมี พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2566 มีผลใช้บังคับ 22 มิถุนายน 2566 ออกมาใหม่ ห้ามเจ้าหน้าที่ผู้ออกใบสั่ง ระบุยอดเงินค่าปรับในใบสั่ง แต่ ณ ปัจจุบัน ชุดจราจรกลาง ภ.จว.สิงห์บุรี ก็ยังระบุค่าปรับในใบสั่งทุกราย ซึ่งชาวบ้านฝากถามว่า อย่างนี้ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่