ดราม่า สาวป่วยจิต ลงว่ายน้ำเล่นตอนสองทุ่ม แล้วมีกลุ่มวัยรุ่นถ่ายคลิป เห็นตอนจมน้ำแต่ไม่มีใครช่วย สุดท้ายจมน้ำตาย แม่ร้องสื่อฯ ก่อนเข้าแจ้งความ บอกหมาตกน้ำเรายังช่วยเลย นี่คนทั้งคน ยอมรับลูกสาวเคยเสพยาแต่บำบัดหายแล้ว ตอนนี้ดื่มเหล้าอย่างเดียว ด้านกลุ่มเด็กที่ถูกกล่าวหา โต้ ความจริงไม่ใช่อย่างที่แม่คนตายพูด
จากเหตุการณ์ผู้สูญหายในน้ำ บริเวณบ้านห้วยตาสี หมู่ 6 ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคลองชลประทาน ลึกประมาณ 3 เมตร ชุดค้นหาใต้น้ำอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูชัยนาท ได้ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ลงค้นหาจนพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ น.ส.สุรัตวดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี อยู่ ต.เนินขาม อ.เนินขาม จ.ชัยนาท นำร่างส่งมอบญาติดำเนินการทางศาสนา ณ ที่พักสงฆ์ละหานใหญ่เจริญศรี (วัดห้วยตาสี)
ต่อมา กรณีที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางสุรินทร์ อายุ 52 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต หลังมีคลิปหญิงสาวกำลังจมน้ำแต่ไม่มีใครลงไปช่วย จนจมน้ำเสียชีวิตต่อหน้าของทุกคน จากนั้นจึงได้มีการแจ้งกู้ภัย โดยนางสุรินทร์ เปิดเผยว่า มีความรู้สึกคาใจว่าลูกเราตกน้ำ มีคนเห็นเขาน่าจะช่วย วันนั้นเขาไปเล่นน้ำตอนมืด แล้วประมาณ 2 ทุ่ม มีคนเล่าว่าลงเล่นน้ำฝั่งนี้แล้วลื่นไปอีกฝั่งหนึ่ง แล้วไปกอดต้นโสน จากนั้นหลุดจากต้นโสนลอยน้ำไป เขาร้องโอยๆ อยากให้ช่วย แต่มีคนบอกว่าลูกโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่คลิปหลุดมาไม่ใช่การฆ่าตัวตาย เพราะลูกร้องให้ช่วย ซึ่งวันเกิดเหตุลูกดื่มเหล้าก่อนที่จะลงเล่นน้ำ
นางสุรินทร์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าลูกจะเป็นผู้ป่วยจิตเวช แต่ตอนเราได้ยินเสียงลูกร้องในคลิปแล้วรู้สึกเจ็บปวด ไม่มีใครช่วยเลย หมาตกน้ำเรายังช่วยเลย นี่คนทั้งคน จะบ้า จะบอ จะดีอะไรก็ตาม เมื่อก่อนเขาเป็นคนดีมาก หลังๆ เขาไม่ค่อยสบาย เขาไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร กินแต่เหล้า ตรงที่เจ็บปวดคือคำว่า "ปล่อยไปเลย ให้มันจมน้ำตายไปเลย มันเรียกร้องความสนใจ ให้มันจมน้ำไปก่อนแล้วค่อยโทรหาป่อเต็กตึ๊ง" ได้ยินเสียงลูกร้องโอยๆ มันเจ็บปวดเหลือเกิน ลูกชายเขาก็ร้องไห้ ทำไมเป็นแบบนี้ ไม่มีใครช่วยเลย อยากรู้ว่าคนถ่ายคลิปเอาหัวใจอะไรมาใส่ ทำไมไม่ช่วยคนทั้งคน อยู่กันตั้งหลายคน ตอนที่ยังไม่ห่างตลิ่ง หรือโทรหาคนมาช่วยก็ได้ หรือตามคนที่บ้านไปช่วยก็ได้
...
ล่าสุดวันที่ 2 พ.ย. 2566 นางสุรินทร์ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท เพื่อดำเนินคดี เพราะคาใจเรื่องที่ทำไมไม่ช่วยเหลือลูกของตน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเรียกกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาสอบสวนอีกครั้ง เพราะตามมาตรา 374 นั้น ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นางสุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกสาวปกติเป็นคนดี แต่เมื่อตอนโควิดลูกสาวเกิดอาการเครียด เพราะหาเงินไม่ได้ และได้เข้ารักษาที่ รพ.สรรคบุรี แพทย์ให้กินยาจิตเวช เวลามีเงินจะแอบไปซื้อเหล้ากิน และมานั่งร้องไห้บ่นหนูไม่มีเงินแล้ว ซึ่งลูกสาวอาจจะมีความเครียดหลายอย่าง ส่วนเรื่องประเด็นที่ลูกสาวตนเคยมีประวัติเสพยาเสพติดนั้น ตนไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่า แฟนเก่าของลูกสาวเคยพาไปบำบัดเมื่อนานมาแล้ว แต่หลังจากนั้นตนก็ไม่เคยเห็นว่าลูกสาวใช้ยาเสพติด จะเห็นแต่เพียงกินเหล้าและร้องไห้ด้วยความเครียด ซึ่งวันนี้เดินทางมายังสถานีตำรวจ ก็เพื่อแจ้งความกับผู้ที่ถ่ายคลิป เนื่องจากรู้สึกติดใจกับผู้ที่ถ่ายคลิปว่าทำไมไม่ช่วยคนบ้าง ถ้าหากไม่ช่วยก็ปล่อยให้จมน้ำไปเลย ไม่ต้องมาถ่ายคลิปให้แม่เห็นและรู้สึกปวดใจ แค่ลูกสาวตายก็เจ็บพอแล้ว เพราะคนเราต้องมีจิตสำนึกบ้าง คิดว่าเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาแต่มายืนหัวเราะ และคำพูดที่อยู่ในคลิปมันทำให้รู้สึกเจ็บปวด
ด้านกลุ่มเด็กๆ ที่ถ่ายคลิป เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ กลุ่มพวกตนได้พยายามช่วยเหลือแล้ว ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเมานอนอยู่กลางถนน กลุ่มพวกตนได้ไปปลุกให้หลบออกจากถนน จากนั้นผู้ตายก็ไปนอนที่ตีนสะพานและกลิ้งตกลงไป พวกตนได้ใช้ไม้กวาดยื่นให้กับผู้ตายจับ แต่ผู้ตายปล่อยมือออกจากไม้กวาด และนอนขำอยู่ในน้ำ แล้วผู้ตายก็ว่ายน้ำลอดใต้สะพานมาเกาะอยู่ที่ต้นโสน ซึ่งตอนนั้นก็เห็นว่าผู้ตายเหมือนจะจมน้ำจริง จึงตะโกนเรียกชาวบ้านในละแวกนั้นให้มาช่วย แต่ผู้ตายได้หัวเราะ และพูดว่าจมๆ เหมือนแกล้งเล่น ส่วนเรื่องที่ถ่ายคลิปเอาไว้ เนื่องจากผู้ตายชอบกระโดดน้ำเป็นประจำเลยถ่ายไว้ เพื่อจะให้คนในครอบครัวเขาดู ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุจมน้ำ พวกตนได้ไปตามพ่อเลี้ยงของผู้ตายมาดู แต่พ่อเลี้ยงก็บอกว่าไม่ไป ปล่อยให้จมตายไปเลย นอกจากนี้พวกตนก็ได้พยายามติดต่อหาแม่ และญาติคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ แม่ของผู้ตายมาถึงจุดเกิดเหตุก็ตอนเอาศพขึ้นจากน้ำมาแล้ว ระหว่างนั้นพวกตนก็ยืนเฝ้า และติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ
ส่วนประเด็นที่มีกระแสว่า กลุ่มพวกตนนั้นไม่คิดจะช่วยเหลือและมายืนถ่ายคลิปนั้น ความจริงไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี และรู้สึกสงสารผู้ตาย ถึงแม้ว่าผู้ตายจะก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับคนในหมู่บ้านก็ตาม.