"นครปฐม" วัยรุ่นอาวุธครบมือ เปิดศึกเดือดริมถนน ไล่ฟันกันยับ-ปาบึมสนั่น ถูกยิงคอบาดเจ็บ 1 ล่าสุดตามรวบได้ 8 อายุระหว่าง 13-19 ปี คาดทั้ง 2 กลุ่มเป็นคู่อริต่างสถาบันกัน

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 5 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อภิชัช อะระหัง สวป.สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบพร้อมชุดสอบสวน ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายณัฐวัฒน์ ศรีทอง อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปี 3 วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง เป็นชาว อ.เมืองนครปฐม จากการตรวจสอบบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่โหนกแก้ม กระสุนฝังในที่ต้นคอ 1 นัด ใบหน้ามีรอยเลือด แพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดทำการช่วยเหลือ ทราบว่าเหตุเกิดที่บริเวณสามแยก 8 ตัน หมู่ 9 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่ายังคงมีเศษระเบิด แผ่นผ้าทั้งสีดำสีขาวปลิวอยู่ตามริมถนน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการทำระเบิด นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดกองใหญ่ และหมวกกันน็อกที่มีรอยเลือดติดอยู่ ตกอยู่บนพื้น 1 ใบ

จากการสอบถามทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม จำนวนกว่า 10 คนไล่ตีกันมา ซึ่งทุกคนมีอาวุธครบมือ ทั้งมีดอีโต้ มีดยาว และมีดง้าว รวมถึงระเบิดและอาวุธปืน ส่วน นายณัฐวัฒน์ ผู้บาดเจ็บ ถูกยิงแล้ววิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ

ต่อมาเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต.วังตะกู สกัดจับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุได้ 8 คน มีอายุระหว่าง 13-19 ปี โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนสาธารณะหมู่ 7 ต.วังตะกู อ.เมือง จ.นครปฐม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นคู่อริต่างสถาบันกัน โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันมีวัตถุระเบิดซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง และร่วมกันพาอาวุธ (มีด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร" จากนั้นจึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

...

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่ 9 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ จากการสอบถาม นายธนกร ม่วงไหม อายุ 33 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ห่างจุดเกิดเหตุเพียง 20 เมตร เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่หน้าบ้าน ช่วงนั้นเวลาประมาณ 21.00 น. จังหวะนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด และมีเสียงคนทะเลาะวิวาทกัน เมื่อหันไปดูเห็นวัยรุ่นหลายคนต่างต่างถืออาวุธครบมือ มีทั้งมีด และง้าว ตะลุมบอนกันชุลมุน และพยายามวิ่งเข้ามาในบ้านของตน ด้วยความตกใจเพราะที่บ้านมีทั้งคนแก่และเด็ก ตนจึงรีบหนีเข้าบ้านแล้วปิดประตู จากนั้นมีเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง จนเสียงเงียบไป ตนจึงเปิดประตูออกมาดูปรากฏว่าพบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ขี่ จยย.กรูเข้าไปด้านหลังฝั่งของห้องแถวที่อยู่อีกฟาก เนื่องจากมีคนถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ แล้วหนีตายเข้าไปหลบอยู่ที่ด้านหลัง ทราบว่าถูกยิงเข้าที่บริเวณโหนกแก้ม เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐมพยาบาล โชคดีที่คนแถวนี้ไม่มีใครได้รับลูกหลงจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งตนก็หวาดกลัวเพราะที่บ้านมีทั้งเด็กเล็กและคนแก่อาศัยอยู่ร่วมกัน

ด้าน น.ส.พิมพ์พิกา มายืนยง อายุ 23 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า จังหวะนั้นตนอยู่กับลูก แล้วมีคนมาตะโกนเรียกให้ช่วย เมื่อออกมาดูถึงกับตกใจเนื่องจากมีเลือดเปื้อนเต็มใบหน้า แล้วน้องบอกว่าช่วยด้วยถูกยิงมา สามีตนจึงเรียกกู้ภัยมาช่วยเหลือ ขนาดตอนนี้รอยเลือดที่พื้นยังไม่แห้งเลย.