ทารกน้อยวัย 8 เดือนเศษ เสียชีวิตปริศนาคาห้องพักในแฟลต ย่านปทุมฯ ของผู้อุปการะอ้างตัวเป็นครูโรงเรียนในกรุง ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบรอยคล้ายถูกกระแทกที่หน้าผาก และรอยเล็บที่หน้าอก ด้านผู้อุปการะเผยพ่อแม่เด็กมอบให้ดูแลแลกกับเงิน 3 หมื่นบาท ก่อนเกิดเหตุออกไปซื้อของ ปล่อยเด็ก 2 คน และเด็กที่เสียชีวิตอยู่ภายในห้องกันเพียงลำพังพอกลับมาก็พบน้องนอนแน่นิ่งสิ้นใจแล้ว ด้านตำรวจเปิดเผยคำให้การของคนที่อุปการะยังมีความขัดแย้งบางสิ่งบางอย่าง

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 66 พ.ต.ท.กวี ช่วยสร้าง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุเด็กวัย 8 เดือน เสียชีวิตภายในห้องพักของแฟลตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจ พร้อม พ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมระหงษ์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต, พ.ต.ท.ชัยรัตน์ แย้มวงษ์ รอง ผกก.(สส.) สภ.ปากคลองรังสิต, พ.ต.ท.นิติธร ศุภชัยวรกุล สว.สส.สภ.ปากคลองรังสิต, กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ, อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง, และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้อง พบศพ ด.ญ.กมลชนก ชินราช หรือน้องเอวา อายุ 8 เดือนเศษ เสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้โซฟา โดยมีผ้าขนหนูสีขาวห่อร่างเอาไว้ จากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่าเด็กมีรอยคล้ายถูกกระแทกบริเวณหน้าผาก และมีรอยเล็บที่บริเวณหน้าอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำส่งสถาบันนิติ วิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ภายในห้องยังพบ น.ส.อลิสา เขตต์สกุล หรือครูฝน อายุ 35 ปี เจ้าของห้อง และ ด.ญ.เนย (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบเศษ กับ ด.ช.เน (นามสมมติ) คล้ายเด็กพิเศษ อายุ 4 ขวบ

จากการสอบถาม น.ส.อลิสา เขตต์สกุล หรือครูฝน เล่าว่า เด็กที่เสียชีวิตไม่ใช่ลูกของตน แต่ตนได้รับมาอุปการะไว้ ซึ่งพ่อแม่ของเด็กได้มอบให้กับตนเป็นผู้ดูแล และมีการทำสัญญากันไว้ ตนจะมอบเงินให้กับพ่อแม่เด็กจำนวน 30,000 บาท ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเลี้ยงลูก 2 คน คือ ด.ช.เน และ ด.ญ.เนย ต่อมาเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.จุฑาลักษณ์ ภูมิไฉน อายุ 20 ปี แม่ของน้องเอวา (เด็กที่เสียชีวิต) ได้มาติดต่อขอให้ตนไปรับน้องเอวา ที่เขตสายไหม กทม. จากนั้นตนได้ขับรถเก๋งไปรับน้องเอวามาพร้อมกับให้เงินไป 1,000 บาท ก่อนนำน้องเอวามาเลี้ยงไว้ที่ห้อง ส่วนวันเกิดเหตุคือวันนี้ (21 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ตนได้ขับรถออกไปซื้อของแถวย่านรังสิต โดยปล่อยให้เด็กทั้ง 3 คนอยู่ในห้องเพียงลำพัง และกลับมาในเวลาประมาณ 18.00 น. เมื่อเปิดห้องเข้าไปก็พบว่าน้องเอวานอนนิ่งอยู่บนที่นอน เมื่อมาดูก็พบว่าน้องเอวาสิ้นใจแล้ว จากนั้นจึงโทรศัพท์ไปแจ้งกับแม่ของเด็ก และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทีมแพทย์กำลังชันสูตรศพน้องเอวาอยู่นั้น นายศักดิ์นรินทร์ ชินราช อายุ 35 ปี และ น.ส.จุฑาลักษณ์ ภูมิไฉน อายุ 20 ปี พ่อและแม่ของน้องเอวา พร้อมญาติได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาเห็นศพของลูกน้อยถึงกับร่ำไห้จนแทบจะเป็นลม ด้วยความโมโห นายศักดิ์นรินทร์ ผู้เป็นพ่อ ได้ต่อว่าครูฝนว่าเลี้ยงลูกอย่างไรลูกตนถึงตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยฯ ต้องกั้นตัวผู้เป็นพ่อออกมา และพาลงมาสงบสติอารมณ์ด้านล่างของแฟลตดังกล่าว

จากการสอบถาม น.ส.จุฑาลักษณ์ แม่ของน้องเอวา ให้การว่า เมื่อประมาณช่วงต้นเดือน ตนได้โพสต์ประกาศหาคนอุปการะลูกตน เนื่องจากตนและครอบครัวมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเงินและในการเลี้ยงดูลูก จากนั้นไม่นานครูฝนได้ติดต่อมาทางเฟซบุ๊กและโทรศัพท์มาพูดคุยโดยบอกว่า เป็นคนรักเด็กและได้มีการพูดคุยกับตน ซึ่งตนเห็นว่าครูฝนซึ่งอ้างตัวว่าเป็นครูของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จึงคิดว่าลูกตนน่าจะมีอนาคต จนได้มีการนัดพูดคุยกันและครูฝนก็สอบถามตนว่า มีปัญหาเรื่องอะไรตนจึงเล่าให้ฟัง ซึ่งครูฝนก็ทำสัญญามา 1 ฉบับโดยสัญญาระบุว่า จะให้เงินตนจำนวน 30,000 บาท เพื่อนำไปใช้หนี้ที่ตนเป็นอยู่ จากนั้นวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ครูฝนก็มารับลูกตนไปอุปการะ ผ่านไปเพียงแค่ 2 วัน ตนก็ได้รับโทรศัพท์จากครูฝนว่า ลูกเสียชีวิตแล้ว ตนจึงเชื่อว่าน่าจะมีสาเหตุอย่างอื่นที่ทำให้ลูกตนต้องเสียชีวิต และจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า จากการสอบถามเบื้องต้น น.ส.อลิสา หรือครูฝน ซึ่งอ้างว่าเป็นครูสอนภาษา อยู่ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร จากคำให้การพบว่า มีความขัดแย้งในบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งทางตำรวจจะสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง อีกทั้งยังต้องรอผลชันสูตรทางนิติวิทยาศาสตร์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้งด้วย ส่วนเด็กอีก 2 คนที่พบอยู่กับ น.ส.อลิสา นั้น จะเร่งทำการตรวจสอบจากใบเกิดว่าเป็นลูกของ น.ส.อลิสา จริงหรือไม่ต่อไป