ชาวประมงพื้นบ้านที่ "บ้านกรูด" อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ อาศัยจอดเรือในคลอง แต่กรมเจ้าท่ามาสร้างเขื่อนกันคลื่นกันทราย งบประมาณ 109 ล้าน สร้างไม่เสร็จปล่อยทิ้งคาไว้ เกิดตะกอนทรายทับถม คลองตื้นเขินจอดเรือไม่ได้ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด่วน
วันที่ 14 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านปากคลอง ม.2 ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่ นายสุชาติ นุ่มศรี ประธานกลุ่มประมงบ้านกรูด และชาวประมงกลุ่มประมงพื้นบ้าน บ้านกรูด ร้องเรียนปัญหาผ่านสื่อฯ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากกรณีผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่น ร่องน้ำบ้านกรูด ได้หยุดการก่อสร้างตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลกระทบให้เกิดตะกอนทรายมาทับถมบริเวณปากคลองที่เชื่อมต่อกับทะเล ทำให้เรือประมงไม่สามารถนำเรือเข้าออกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงน้ำลด หลังจากเคยร้องเรียนผ่านสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา
สำหรับการก่อสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นร่องน้ำคลองบ้านกรูดดังกล่าวเป็นการก่อสร้างในลักษณะเขื่อนเรียงหิน จากปากคลองกรูดทั้งฝั่งซ้ายและขวา ทอดยาวออกไปในทะเลด้านทิศตะวันออก 235 เมตร ด้านทิศตะวันตก 325 เมตร โครงการนี้ยังรวมถึงงานก่อสร้างกำแพงป้องกันตลิ่งยาว 160 เมตร ตลอดจนงานขุดลอกร่องน้ำและหน้าท่า งานเสริมทรายบริเวณชายหาดบ้านกรูด ระยะทาง 1,150 เมตร ซึ่งจากการสืบค้นตามรายงานของกรมเจ้าท่า ผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2563 ถูกระบุอยู่ในตารางผลการดำเนินงานสำหรับงานพัฒนางบประจำปี 2563 ลำดับที่ 17 ระบุงบประมาณไว้ทั้งสิ้นในวงเงินรวมตามสัญญา 109 ล้านบาทเศษ โดยเป็นงบฯ ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563-2565 สิ้นสุดสัญญา 23 มิถุนายน 2565
...
นายสุชาติ นุ่มศรี ประธานกลุ่มประมงบ้านกรูด เปิดเผยว่า อยากให้หน่วยงานทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยลงมาดูแลเเละจัดสรรงบประมาณเร่งด่วน ดำเนินการขุดลอกคลองในบริเวณปากคลองกรูด ซึ่งชาวประมงในพื้นที่ต้องประสบปัญหานำเรือเข้าออกไม่ได้ ชาวบ้านออกไปทำมาหากินกันไม่ได้ ที่เข้าออกได้มีเพียงแค่เรือขนาดเล็ก บางครั้งแม้เรือเล็กก็ยังติด ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวประมงสามารถนำเรือเข้าออกได้ ชาวบ้านก็แก้ปัญหาเบื้องต้น โดยถ้าจะนำเรือประมงเข้าออก ต้องอาศัยช่วงน้ำทะเลขึ้นสูง และต้องจอดเรือพักทิ้งไว้กลางทะเล แล้วใช้เรือเล็กกลับเข้าฝั่งเพื่อรอเวลาน้ำขึ้น ซึ่งมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก ที่ต้องเอาเรือไปจอดทิ้งไว้กลางทะเลหากเจอคลื่นลมแรง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงมาแก้ไขปัญหา ให้ชาวบ้านได้นำเรือออกทำมาหากินได้ตามปกติ สำหรับโครงการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การขุดลอกบริเวณปากคลองถูกบรรจุอยู่ในระยะสุดท้ายของแผนงานตามโครงการฯ ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มฯ ได้ไปยื่นหนังสือที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการแก้ไขปัญหา
ด้าน นายอิศรา กาญจนรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีโครงการฯ ลงมาในพื้นที่ ทางเทศบาลฯ ได้ติดตามการก่อสร้างรวมถึงข้อร้องเรียนจากชาวบ้านมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นปี 2565 มีชาวบ้านมาขอให้ขยับเขื่อนด้านตะวันออก เปิดมุมให้กว้างขึ้นอีกประมาณ 10 เมตร เพื่อสะดวกในการนำเรือเข้าออก โดยตอนนั้น นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่าในขณะนั้น ได้ลงมาในพื้นที่เพื่อรับเรื่อง และมีการดำเนินการแก้ไขแบบตามข้อเรียกร้องของชาวบ้าน แต่เรื่องการแก้ไขแบบติดขัดระเบียบของทางราชการบางประการ จนกระทั่ง รองสมพงศ์ ได้เออร์ลี่ไป แบบก็ยังไม่ได้เซ็นให้บริษัทผู้รับเหมาดำเนินการต่อ ซึ่งล่าสุดได้มีการสอบถามไปยังบริษัทผู้รับเหมา ทราบว่าทางอธิบดีกรมเจ้าท่าได้เรียกผู้รับเหมาเข้าไปพูดคุยแล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จได้ในเร็ววันนี้ แต่ก็ติดขัดในเรื่องเงื่อนไขของเวลาที่จะขยายสัญญาออกไป โดยทางบริษัทยังมองว่าน้อยเกินไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถตกลงกันได้เพื่อดำเนินการต่อให้เเล้วเสร็จ
...
"ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว เมื่อทางบริษัทรับเหมาทราบว่าจะมีการแก้ไขแบบ จึงได้ทำหน้งสือแจ้งไปยังกรมเจ้าท่า เพื่อขอหยุดการทำงานชั่วคราวเนื่องจากแบบยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งหลังจากนี้ทางเทศบาลฯ จะประสานไปทางผู้รับเหมา เนื่องจากทราบว่าขณะนี้รถแบ็กโฮยังจอดอยู่ในพื้นที่ จึงจะขอให้ช่วยดำเนินการขุดลอกบริเวณปากคลองเป็นการชั่วคราวไปก่อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านนำเรือเข้าออกได้สะดวกขึ้น เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน" นายอิศรา กล่าว.