ปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้สภาพอากาศแปรปรวน กระทบสวนกล้วยไม้วงศ์แวนด้า ช้าง และไม้ป่า ไม่ยอมออกดอก ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น เพราะต้องรดน้ำและใส่ปุ๋ย เพิ่มวอนรัฐหาทางช่วยเกษตรกรด้วย โดยอยากให้ศึกษาและหาทางแก้แบบเป็นรูปธรรม
ผู้สื่อข่าวไปพบกับ นายวสันต์ ชุบคำ เกษตรกรเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ใน ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งว่า ขณะนี้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้ กำลังได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์สภาพอากาศเอลนีโญ ก่อนพาผู้สื่อข่าวไปดูแปลงกล้วยไม้ ที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ แต่กลับพบว่ากล้วยไม้เกือบยกสวน ไม่ออกดอกเลย ทั้งที่ปกติจะต้องออกดอกชูช่ออยู่เต็มสวน

นายวสันต์ เปิดเผยว่า ตนทำสวนกล้วยไม้ประเภทแวนด้า ช้าง และไม้ป่าลูกผสมมาแล้วกว่า 26 ปี โดยผลผลิตทั้งหมดจะถูกส่งไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศฟิลิปปินส์ กัมพูชา เวียดนาม ลาว มาเลเซีย อเมริกา และอินเดีย สำหรับนำไปใช้เป็นไม้ประดับตกแต่ง ซึ่งที่ผ่านมาสร้างรายได้ให้กับตน และเพื่อนร่วมอาชีพได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเกิดวิกฤติโควิด-19 ทำให้การส่งออกต้องหยุดชะงัก ตนและเกษตรกรคนอื่นๆ ต่างปรับตัว หันมาทำตลาดภายในประเทศ เพื่อประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด กระทั่งการส่งออกเริ่มกลับมา แม้ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศ จะยังกลับมาไม่เท่าเดิมก็ตาม
...


แต่ขณะที่สถานการณ์กำลังคลี่คลาย ก็ต้องมาเผชิญกับผลกระทบ ที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญ สภาพอากาศแปรปรวน แม้ปัจจุบันประเทศไทย จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่ก็ยังมีความร้อนสูง เหตุเพราะฝนตกน้อย ส่งผลให้กล้วยไม้ชะงักการเจริญเติบโต ไม่ยอมผลิดอก ส่วนต้นที่ออกดอกมาได้ ดอกก็ไม่สมบูรณ์ ก้านสั้น มีขนาดเล็ก และสีคล้ำไม่สดใส ไม่สามารถส่งจำหน่ายได้ เสียโอกาสทางการค้า ตกรอบละหลักแสนบาท

อย่างไรก็ตาม ตนและเพื่อนเกษตรกร ต้องแก้ปัญหาด้วยการให้น้ำ จากเดิมที่จะรดเพียงวันละ 1 ครั้ง ปัจจุบันต้องเพิ่มเวลารดน้ำเป็นวันละ 2 ครั้ง เวลาเช้า-บ่าย เพื่อเพิ่มความชื้นให้กับแปลงกล้วยไม้ รวมทั้งยังต้องใส่ปุ๋ยบำรุงต้น และพ่นยาป้องกันเชื้อรา ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้อยากให้ภาครัฐช่วยแก้ปัญหาราคาค่าปุ๋ย ยา น้ำมัน และค่าไฟฟ้า เพื่อให้เกษตรกรแบกรับต้นทุนที่น้อยลง รวมไปถึงฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาศึกษาหาทางแก้ไขผลกระทบ จากปรากฏการณ์เอลนีโญ ต่อพืชผลทางการเกษตรอย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติแก่เกษตรกร เพราะเอลนีโญจะเกิดขึ้นในประเทศอีกหลายปี.
...