ตำรวจออกหมายเรียกเรืออากาศ เอกลูกทัพฟ้าวัยเกษียณพี่ชายอดีตนักการเมืองคนดัง ตบสาวเชียร์เบียร์ปากแตก ไม่หนำใจถีบซ้ำ อีกดอก อ้างโมโหฝ่ายหญิงเอามือมาจับเป้ากางเกง สาวเชียร์เบียร์ผู้เสียหายยันแค่จกพุงหยอกล้อเล่นกลับถูกทำร้ายป่าเถื่อนแถมยังคุยเบ่งใหญ่โตพูดจาข่มขู่ เผยคู่กรณีมานั่งกินกับเพื่อนอีก 2 คนเรียกมา อุดหนุนเบียร์ 3 ขวด พร้อมให้นั่งคุยเป็นเพื่อน ดื่มกิน จนเมาได้ที่พูดจาหยอกล้อกันอยู่ดีๆโดนตบหน้าหงาย ช้ำใจซ้ำไปแจ้งความตำรวจกลับให้ไปหาหลักฐานมาเอง ผบช.ภ.6 สั่งดำเนินคดีตรงไปตรงมาไม่มีละเว้นพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

กรณีเพจเฟซบุ๊กกลุ่มสาธารณะแจ้งข่าวเตือนภัยของชาวนครสวรรค์ เผยคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์สาวเชียร์เบียร์คนหนึ่งถูกลูกค้าชายทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าและยังถีบซ้ำ เหตุเกิดภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อคืนวันที่ 23 มิ.ย. ระบุสาเหตุเกิดจากลูกค้าชายอ้างว่าไม่พอใจที่ถูกสาวเชียร์เบียร์มาจับอวัยวะเพศ หนำซ้ำยังพูดข่มขู่ว่าตัวเองเป็นคนใหญ่คนโต หลังเกิดเหตุสาวเชียร์เบียร์ไปตรวจร่างกายและไปแจ้งความไว้แล้ว แต่ตำรวจกลับบอกผู้เสียหายให้หาหลักฐานมาเอง สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุที่อ้างตัวเป็นคนใหญ่โต ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้

...

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวไปพบผู้เสียหายทราบชื่อ น.ส.สุสิตา ราชกิจ อายุ 20 ปี เป็นพนักงานเชียร์เบียร์ตามร้านอาหาร เจ้าตัวโชว์ร่องรอยบาดเจ็บที่ใบหน้าพร้อมเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คืนเกิดเหตุไปทำงานที่ร้านอาหารชื่อ “เธอ” เดินเชียร์เบียร์ตามโต๊ะต่างๆ พบลูกค้าคู่กรณีที่คุ้นหน้าคุ้นตานั่งอยู่กับเพื่อนอีก 2 คน เรียกตนเข้าไปหาบอกช่วยซื้อเบียร์ 3 ขวด ตนเอาเบียร์มาเสิร์ฟให้แล้วนั่งคุยเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆกัน ระหว่างที่พูดคุยกันไปมามีการแตะเนื้อต้องตัวกัน ปรากฏว่าถูกชายคู่กรณีเงื้อมือขึ้นมาตบใบหน้าอย่างแรง พร้อมด่าสาดเสียเทเสียหาว่าตนเอามือไปล้วงจับอวัยวะเพศ แถมยังพูดข่มขู่ประมาณว่า เป็นคนใหญ่คนโต ถ้าไม่แน่จริง ไม่มีใครทำอะไรได้

เมื่อถามว่าเอามือล้วงไปจับอวัยวะเพศตามที่ชายคู่กรณีกล่าวอ้างหรือไม่ น.ส.สุสิตายืนยันว่าไม่เป็นความจริง ยอมรับว่าระหว่างที่พูดคุยหยอกล้อกันต่างคนต่างเมาทั้งคู่แล้วตนเอื้อมมือไปจับพุงของลูกค้าตามประสาคนรู้จักกันก็แค่นั้น มีเพื่อนสาวที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันยืนยันได้ แต่อีกฝ่ายกลับโมโหตบตนจนปากแตก ตอนนั้นทั้งเจ็บทั้งอายทั้งโมโห ก่อนที่เพื่อนของคู่กรณีที่มาด้วยกันจะช่วยกันห้ามปราม แล้วตนก็ย้ายไปนั่งกับลูกค้าโต๊ะอื่น หลังเลิกงานนำหลักฐานกล้องวงจรปิดไปแจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดีลูกค้ารายนี้ให้ถึงที่สุด ตำรวจกลับให้ตนไปหาหลักฐานมาเพิ่มว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครอยู่ที่ไหน ตนก็ไม่ทราบเพราะที่ผ่านมาจะเจอกันตามร้านต่างๆที่ไปทำงาน ไม่เคยมีเบอร์ติดต่อกัน ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยนำคลิปไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก

มีรายงานว่า ตำรวจรู้ตัวคู่กรณีที่ก่อเหตุแล้วเป็นอดีตทหารอากาศเกษียณอายุราชการ ยศเรืออากาศเอก อายุ 63 ปี และเป็นพี่ชายของอดีตนักการเมืองคนดัง อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเรียกตัวมาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา

ต่อมาในช่วงบ่าย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญวิทย์ กนกนาก ผบก.ภ.จ.นครสวรรค์ เดินทางมาที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 จ.นครสวรรค์ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ รายงานเหตุเบื้องต้นมาแล้วพบว่า มีการกระทำความผิดตามคลิปจริง ได้กำชับให้ดำเนินคดีแบบตรงไปตรงมาและให้ความมั่นใจกับผู้เสียหายที่ออกมาร้องเรียนว่าตำรวจได้ดำเนินการเอาผิดผู้ก่อเหตุแล้ว ในส่วนของผู้เสียหายที่เกิดความหวาดกลัว ได้ส่งกำลังตำรวจเข้าไปดูความปลอดภัยให้แล้ว

พล.ต.ท.อัคราเดชเผยต่อไปว่า ล่าสุด ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุและเพื่อนที่นั่งอยู่ในโต๊ะรวม 3 คน เข้ามาให้ปากคำในวันที่ 27 มิ.ย. ส่วน น.ส.สุสิตา ผู้เสียหาย ส่งไปตรวจร่างกายที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ตั้งแต่วันที่มาแจ้งความแล้ว ตอนนี้รอใบตรวจร่างกายจากแพทย์นำมาประกอบสำนวนคดีในการแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุเป็นถึงพี่ชายอดีตนักการเมืองชื่อดัง ตำรวจยืนยันจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด นอกจากนี้มีรายงานว่าหนึ่งในเพื่อนที่นั่งด้วยกันเป็นนายตำรวจระดับรองผู้กำกับการในภาค 6 ก็เรียกตัวมาให้ปากคำเช่นกันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ มีพฤติการณ์ช่วยเหลือหรือห้ามปรามหรือไม่ ในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปแล้วและจะให้ความยุติธรรมกับผู้เสียหายอย่างตรงไปตรงมา