อากาศร้อน ขาดน้ำ ชาวสวนคลองลอย ตัดใจปล่อยทุเรียนบางส่วนยืนต้นตาย

ทุเรียนคลองลอย  อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ “ทุเรียน” ที่ได้รับความนิยมของบรรดาผู้บริโภค ด้วยเอกลักษณ์ เนื้อทุเรียนอวบเต็มพู เมื่อสุกมีสีเหลือง รสชาติหวานกำลังดีและเนื้อแห้ง แน่น ไม่เละ ปีนี้มีออรเดอร์ล่วงหน้าจากประเทศจีนรับซื้อไม่อั้นเช่นเดิม แต่ผลผลิตไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยแบบเดิม

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า ปีนี้ประเทศไทยเจอสภาพอากาศที่ร้อนจัดและฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในพื้นที่ปลูกทุเรียนคลองลอย ฝนแทบไม่ตกตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ทำให้แหล่งน้ำต้นทุนแห้งขอด ชาวสวนทุเรียนประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ

เมื่อช่วงสาย วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 จากการเดินทางไปดูอ่างเก็บน้ำคลองลอย ในหมู่ 8 ต.ร่อนทอง อ.บาฃสะพาน พบว่าปริมาณน้ำในอ่างแห้งขอดจนไม่เหลือน้ำไว้ใช้ ขณะที่สวนเรืองทอง ซึ่งสวนทุเรียนของนางเเฉล้ม เรืองทอง ประธาน “กลุ่มผู้ปลูกทุเรียนแปลงใหญ่ในสายแร่ทองคำ” ปัจจุบันในกลุ่มมีสมาชิกรวมตัวกัน 41 สวน รวมพื้นที่ปลูกทุเรียนของสมาชิกประมาณ 1,000 ไร่ 

นางแฉล้ม ได้เล่าเท้าความไปถึง เมื่อ 40 กว่าปีก่อน พ่อของตนได้ย้ายครอบครัวมาจากเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มายังบ้านคลองลอยแห่งนี้เพื่อทำเหมืองแร่ดีบุกซึ่งเป็นของตา แต่พ่อเห็นว่าสภาพดินที่นี่ดี น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ดี “คลองลอยเดินไปทางไหนก็มีแต่น้ำ” จึงได้นำต้นทุเรียนมาทดลองปลูกเป็นสวนแรกในบ้านคลองลอยโดยนำมาปลูกก่อน 10 ต้นพบว่ามันได้ผลผลิตดีจึงซื้อที่เพื่อปลูกเพิ่มเป็น 20 ไร่ ก่อนจะขยายเป็น 40 ไร่ในปัจจุบัน เมื่อชาวบ้านเห็นว่าทุเรียนที่สวนได้ผลผลิตดี จึงเริ่มหันมาปลูกต่อๆ กันจนปัจจุบันสวนทุเรียนที่บ้านคลองลอยรวมๆ กันทั้งหมดประมาณ 4,000 ไร่ 

"แต่ในปีนี้ สวนทุเรียนบนคลองลอยเกือบทั้งหมดประสบปัญหาได้ผลผลิตน้อยมาก ซึ่งน้อยกว่าผลผลิตที่ควรจะได้ หายไปกว่า 40% โดยมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ฝนแล้งทิ้งช่วงไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาส่งผลให้แต่ละสวนให้ไม่มีน้ำรดต้นทุเรียน ทุเรียนบนคลองลอยส่วนใหญ่จะเป็นทุเรียนที่มีการคัดขนาดที่พอดีส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งปีนี้จีนยังคงมีความตัองการซื้อจำนวนมากมาก หลังจากนี้ไปจนถึงช่วงตัดทุเรียนขายประมาณกลางเดือนหน้า หากไม่มีฝนตก ชาวสวนทุกสวนจะต้องดิ้นรนหาน้ำให้ได้ ถึงขนาดว่าถ้าจำเป็นต้องซื้อน้ำมารดทุเรียนก็ต้องซื้อ เพราะในอ่างคลองลอยซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนของชาวสวนทุเรียนแห้งขอดไม่เหลือน้ำแล้ว"

เจ้าของสวนเรืองทอง กล่าวอีกว่า "เพื่อรักษาลูกและต้นทุเรียนไว้ บางสวนต้องตัดสินใจปล่อยให้ทุเรียนที่กำลังปลูกใหม่ อายุ 1-3 ปี ยืนต้นตายเพื่อรักษาต้นที่กำลังได้ผลผลิต"