มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ได้รับแจ้ง พระลูกวัดที่บางปะกง ขอรับเลี้ยงแมวผ่านเฟชบุ๊ก ก่อนทราบจากพระร่วมวัด "ชอบฆ่าแมว" รีบเข้าไปช่วยไว้ได้ 4 กับลูกแมวที่ถูกขังอีก 2 ตัว ขุดหาซากเจอถูกเผา ฝังดิน 12 ตัว เผยพฤติกรรมสุดสยอง ใช้จีวรห่อแล้วฟาดกับพื้น กัดคอ กัดหูเหมือนกินเนื้อ
เวลา 12.00 น. วันที่ 17 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่วอชด็อกไทยแลนด์ ซึ่งได้รับแจ้งว่า มีพระลูกวัดวัดไตรสรณาคม หมู่ 8 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ชื่อพระพรดนัยหรือพระคิม อายุ 23 ปี ได้ขอรับดูแลลูกแมวไปเลี้ยงผ่านเฟซบุ๊กจำนวน 4 ตัว จาก "คุณพรรณิภา" แต่หลังจากนำแมวมาส่งที่วัดปรากฏว่าพระลูกวัดได้เล่าพฤติกรรมของพระคิมว่า ชอบรับเลี้ยงแมวอยู่บ่อยครั้งแล้วทำร้ายจนตายก่อนจะเอาซากแมวที่ตายมาเผา
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ได้พบกับพระครูพิทักษ์ธรรมโสภณ อายุ 64 ปี เจ้าอาวาสวัดไตรสรณาคม ซึ่งท่านเพิ่งจะทราบเรื่องจากพระลูกวัดเช่นเดียวกัน และไม่คิดว่าพระคิมซึ่งบวชมาจะ 2 พรรษามีพฤติกรรมทารุณกรรมสัตว์ ยิ่งเรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตพระสงฆ์ที่ครองผ้าเหลืองก็ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง
ต่อมา ทางตำรวจได้มาเชิญตัวพระคิมไปสอบปากคำ ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ไปที่กุฏิที่พระคิมขังแมวที่รับเลี้ยงเอาไว้ พบว่ามีคราบเลือดที่พื้น มีจีวรเปื้อนเลือด และมีกรงแมว ที่นอนแมว อาหารแมว โดยพระลูกวัดบอกว่าบางครั้งพระคิมจะใช้เข็มสักยันต์แทงไปที่ซากแมวที่ถูกฟาดตาย โดยวิธีทำให้แมวตายก็คือจับแมวใส่จีวรหรืออังสะแล้วห่อก่อนจะฟาดลงกับพื้นกุฏิจนแน่นิ่ง จากนั้นนำซากมาดูก่อนจะนำไปเผาที่กองขยะหลังกุฏิ ซึ่งทั้งนี้ทางตำรวจจะสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และสอบพระคิมอีกครั้งว่าเหตุการณ์เป็นเช่นไร
...
จากนั้นเวลา 16.00 น. วันที่ 17 พ.ค. น.ส.รัตติยา เตียวตระกูล อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ของวอชด็อกไทยแลนด์ ได้ลงพื้นที่ พร้อมกับชุดสืบสวน นำตัว พระคิมไปสึก ก่อนควบคุมตัวนายคิมกลับไปสอบสวนต่อที่ สภ.บางปะกง ส่วน น.ส.รัตติยา ได้ใช้จอบขุดดินบริเวณหลังกุฏิและกองขยะที่ถูกเผา พบซากแมวตัวใหญ่และเล็กถูกเผารวม 10 ตัว และถูกฝังอีก 2 ตัวรวมเป็น 12 ตัว ใช้เวลาขุดหาเพียง 20 นาที และพรุ่งนี้เตรียมมาช่วยขุดหาอีกเพราะเชื่อว่าน่าจะมีซากแมวที่ถูกฆ่าแล้วเผามากกว่า 60-70 ตัว
น.ส.รัตติยา เผยว่านายคิมจะใช้เฟซบุ๊กทักไปหาคนที่ชอบหาบ้านให้ลูกแมว ทีแรกก็เลือกเฉพาะแมวส้มแต่หลังๆ ก็ได้ทุกสี จนวอชด็อกได้คลิปที่มีคนถ่ายพฤติกรรมของนายคิมที่ฟาดแมวส้มจนตายแล้วนำซากขึ้นมากินโดยกัดบริเวณหู ซึ่งทำให้ทุกคนที่เห็นคลิปนั้นตกใจ
ส่วนพระลูกวัด เผยว่า นายคิมมาบวชได้จะ 2 พรรษาแล้ว มีพฤติกรรมชอบรับแมวจากชาวบ้านมาเลี้ยงตั้งแต่มาบวช แต่แมวเหล่านั้นจะหายไปตลอดจนระยะหลังได้ยินเสียงแมวร้องและมีเสียงดังในกุฏิ จนมาเห็นว่านายคิมฆ่าแมวโดยวิธีต่างๆ จนพระลูกวัดที่เห็นต่างสงสารแมว เพราะทุกครั้งที่ฆ่าเสร็จก็นำไปเผาหรือฝังช่วงกลางคืน จนสุดท้ายทนไม่ไหวจึงบอกโยมที่นำแมวมาให้นายคิมเลี้ยงให้เอาแมวกลับไปเพราะแมวจะตายทั้งหมด ซึ่งไม่ต่ำกว่า 80 ตัวแล้ว ผู้สื่อข่าวไปพบนางพรธรัตน์ สุขมา อายุ 56 ปี 1 ในผู้เสียหายที่นายคิมทักหาแล้วขอรับเลี้ยงแมว 5 ตัว ซึ่งนายคิมรับเลี้ยงมาได้ไม่นาน โดยมีข้อตกลงที่ว่านายคิมต้องถ่ายรูปมาให้ดูความเป็นอยู่ของแมวตลอด แต่สุดท้ายนายคิมไม่ยอมทำตามที่ตกลง พอถามหามากๆ นายคิมก็บอกว่ามีคนมารับไปเลี้ยงแล้ว 3 ตัว แต่ไม่ยอมให้ดูอีก 2 ตัว สุดท้ายมาทราบข่าวก็ตกใจและทำใจไม่ได้ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้เท่ากับส่งแมวไปตาย
เบื้องต้น พ.ต.ท.จงเดช ศรีตะวัน สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง ได้แจ้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์ พร้อมเตรียมฝากขังและคัดค้านการประกันตัว