ชาวสวนที่สมุทรสงคราม เร่งตัดแต่งกิ่งก้านใบ หรือ ทำสาวให้ต้นลิ้นจี่ หลังก่อนหน้าออกลูกดกแล้วมาเจออากาศร้อนจัดนานนับเดือน เริ่มยืนต้นตายเสียหายไปครึ่งสวน เพื่อให้ลิ้นจี่แตกใบใหม่เหมือนต้นสาวๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2566 ที่สภาพอากาศร้อนจัดนานนับเดือน ส่งผลกระทบต่อต้นลิ้นจี่ที่ปีนี้ติดผลดกจัด ทำให้ใบเหี่ยวเฉาต้นลิ้นจี่ไม่สามารถสังเคราะห์แสงหาอาหารมาเลี้ยงลูกบนต้นได้ ทำให้ลิ้นจี่ยืนต้นตายจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีสวนลิ้นจี่ของนายบุญช่วย สุขวิจิตร์ อายุ 80 ปี ซึ่งปลูกต้นลิ้นจี่ 35 ต้น ในเนื้อที่ 5 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ริมถนนผลไม้ ทางเข้าวัดอินทาราม ที่มีต้นลิ้นจี่อายุกว่า 30 ปี รวม 11 ต้น ที่มีลูกดกเต็มต้นแห้งเหี่ยว เป็นสีน้ำตาล สร้างความเสียหายครึ่งสวน ประมาณ 1,500 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าของสวนลิ้นจี่แห่งนี้หวั่นเกรงว่าลิ้นจี่จะไม่รอดยืนต้นตาย
...
ล่าสุด นายบรรจงศิลป์ วุฒิอุทัย เกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางไปเยี่ยมเยียนนายบุญช่วย ที่บ้านพัก ก่อนจะลงพื้นที่ติดตามแปลงลิ้นจี่นายบุญช่วย พร้อมให้คำแนะนำในการทำสาว หรือการตัดแต่งต้นลิ้นจี่ใหม่หมด และให้รดนำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลิ้นจี่แตกใบใหม่ เหมือนเริ่มเป็นสาวใหม่ๆ
นายบรรจงศิลป์ กล่าวว่า หลังจากสำนักงานเกษตรจังหวัดทราบข่าว ว่าสวนลิ้นจี่ลุงบุญช่วยได้รับผลกระทบจากความร้อนจัดนานเป็นเดือน ประกอบกับปีนี้ลิ้นจี่ออกดอกมาก ทำให้ลิ้นจี่ที่มีลูกดกมากไม่สามารถหาอาหารมาเลี้ยงลูกที่มากได้ จึงทนไม่ไหว ใบก็เริ่มแห้งตาย ลำต้นเริ่มแห้งยืนต้นตาย จึงมอบให้เจ้าหน้าที่มาทำสาวให้ต้นลิ้นจี่ในสวนลุงบุญช่วยซึ่งอายุกว่า 50 ปี โดยการตัดแต่งกิ่ง และรดน้ำให้ชุ่มโคนต้น เพื่อให้รากได้งอกใหม่ สามารถดูดอาหารไปเลี้ยงต้นใหม่ ใส่ปุ๋ยคอกมูลวัว เพื่อต้นแข็งแรงแตกยอดใหม่ เป็นสาวรุ่นๆ อีกครั้ง.