ยายแด้วอนทั้งน้ำตา กลัวไม่ปลอดภัย หลัง รองอ๊อฟ อดีตสามีแอม แอม ไซยาไนด์ ได้ประกันตัว เผยอยากตรวจ DNA ลูกแอม และทางครอบครัว อยากได้ทรัพย์สินคืน โดยเฉพาะพระสมเด็จเลี่ยมทอง แฉอีก แอมอ้าง ทองที่นำไปขายเป็นของปลอม ลั่น “แด้ตายแล้วยังหาคุกให้”
จากกรณีที่ รองอ๊อฟ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง อดีตสามีของแอม ไซยาไนด์ ได้รับการประกันตัวในวงเงิน 100,000 บาท แต่จะต้องติดอุปกรณ์กำไล EM ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าพบกับ นางวันเพ็ญ ตนายะพันธุ์ ยายของนายแด้ สามีของแอมที่เสียชีวิตที่ จ.อุดรธานี ถึงกรณีดังกล่าว ก่อนที่จะได้รับการเปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้มีการออกหมายจับ ทางครอบครัวก็รู้สึกมีความมั่นใจว่าจะคืนความยุติธรรมให้หลานชายได้ กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ศาล จ.นครปฐม ได้อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว ยอมรับว่าขณะนี้ทางครอบครัวมีความวิตกกังวลในเรื่องของความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้ออกมาให้ข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นนางวันเพ็ญได้ยกมือพนมร้องไห้น้ำตาซึม พร้อมกล่าวว่า ตนอยากฝากไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับครอบครัวของตนด้วย แต่หากผู้ไม่ประสงค์ดีจะลงมือทำอะไร ก็ขอให้มาทำกับตนเอง อย่าไปทำกับลูกหลานเลย ตนทำใจไม่ไหวแล้ว แค่คนเดียวก็หัวใจสลายแล้ว ในส่วนประเด็นเรื่องทรัพย์สินของนายแด้ นางวันเพ็ญ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณครึ่งเดือน ก่อนหน้าที่หลายชายจะเสียชีวิตได้พาแอมมาหาตนที่บ้านพัก ในช่วงเวลานั้นตนยังเห็นว่าหลานชายสวมใส่ทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอน้ำหนัก 5 บาท สร้อยข้อมือ 5 บาท และแหวนทอง 1 บาท รวมถึงพระสมเด็จเลี่ยมทอง 1 องค์
...
แต่หลังจากหลานชายเสียชีวิต แอมได้มาบอกกับตนว่า ทรัพย์สินที่เป็นทองรูปพรรณมี สร้อยคอ 5 บาท สร้อยข้อมือ 3 บาท และแหวน 2 สลึง และยังไปพูดกับแม่ของหลานชายอีกว่า แด้ตายไปแล้วยังหาคุกให้ตน เพราะทองที่นำไปขายเป็นของปลอม กระทั่งมาทราบข้อเท็จจริงว่าแอมได้นำทองทั้งหมดไปขายที่ จ.อุดรธานี ทันทีที่หลานชายเสียชีวิต แต่ในตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไร เพราะเด็กในท้องแอมเป็นลูกของแด้
กระทั่งปัจจุบัน หลังจากทราบว่าแอมทำกับแด้เช่นนี้ หากเป็นไปได้ทางครอบครัวอยากได้ทรัพย์สินเหล่านั้นคืน เพื่อจะนำไปทำบุญสร้างกุศลให้กับแด้ โดยเฉพาะพระสมเด็จเลี่ยมทอง ซึ่งเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างมาก เนื่องจากเป็นของขวัญที่พ่อบุญธรรมของแด้มอบให้เมื่อประมาณสิบปีก่อน รวมไปถึงอยากตรวจ DNA เด็กในท้องของแอมว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของแด้หรือไม่ แต่ขอพูดตรงๆ ว่า ถ้าตรวจแล้วมี ตนก็ไม่เอา เพราะตนรับแม่เขาไม่ได้
ทั้งนี้ ตนอยากฝากข้อความถึงแอมว่า “กรรมใดที่เราก่อ ถึงจะปิดบังเท่าไร มันก็สนอง โกหกใครก็โกหกได้ แต่โกหกใจตัวเองไม่ได้ ถึงขั้นนี้แล้วควรรับสารภาพ”