ศาลนัดพร้อมคดี “แตงโม” พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิต จำเลย 4 คนยังให้การปฏิเสธ ขอลุยสู้คดีต่อ แม่แตงโมยื่นฟ้องเรียกเงินค่าเยียวยาเพิ่มเป็น 179 ล้านบาท หลังเพิ่งเห็นสเตตเมนต์และเอกสารสัญญาว่าจ้างของลูกสาวมีรายได้เฉลี่ยปีละกว่าสิบล้านบาท คำนวณใหม่คิดรายได้ไปอีก 20 ปีข้างหน้า ศาลรับคำร้องพร้อมนัดตรวจพยานหลักฐานแ/9ละกำหนดวันนัดสืบพยาน 29 มิ.ย. “แซน” เตรียมฟ้องกลับคุณแม่หมิ่นประมาทเอาเอกสารเท็จมาแจกสื่อ ข้องใจทำไปเพื่ออะไรเหมือนต้องการบีบคั้น ด้าน “กระติก” ยันแตงโมไม่ได้มีรายได้เยอะขนาดนั้น ช่วง 2 ปีหลังแทบไม่ได้รับงานเลย รู้ดีว่าแตงโมให้แม่เดือนละเท่าไหร่
ความคืบหน้าคดีดาราสาวแตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิตที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 เม.ย. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษากฎหมาย เดินทางมาฟังคำสั่งนัดพร้อมทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเพื่อตรวจความพร้อมสำนวนอีกครั้ง โดยนัดจำเลย 4 คน ประกอบด้วยนายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์ นายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ และนายภีม ธรรมธีรศรี หรือกุนซือเอ็ม ที่แยกฟ้องออกจากคดีเดิมที่จำเลย 2 คน คือนายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ และนายไพบูลย์หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ รับสารภาพไปก่อนแล้ว
ก่อนเข้าฟังคำสั่งนัดพร้อมนายชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษากฎหมายของนางภนิดา กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีใหม่ที่ศาลมีคำสั่งให้พนักงานอัยการเป็นโจทก์แยกฟ้องจำเลยที่ 3-6 เป็นคดีใหม่ โดยใช้ข้อหาเดิมที่เป็นเหตุให้แตงโมพลัดตกเรือเสียชีวิต นางภนิดายังติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว พนักงานอัยการจึงใช้ข้อหาเดิมและวัตถุพยานเดิมยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 4 คน นางภนิดาได้เดินทางมาในฐานะโจทก์ร่วมในคดีใหม่ นอกจากนี้ นางภนิดาได้ตรวจพบเอกสารและสัญญาจ้างงานของแตงโม ซึ่งเป็นนักแสดงชื่อดัง หลักฐานใหม่เป็นเอกสารคู่สัญญาทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก จึงจำเป็นที่จะต้องยื่นเรียกร้องค่าเสียหายและค่าเยียวยาในฐานะผู้จัดการมรดกผู้เสียหาย และมารดาผู้สูญเสีย จำนวนเงินที่เรียกร้องไปประมาณ 179 ล้านบาท โดยเรียกร้องจากจำเลยทั้ง 4 คน
...
นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม กล่าวว่า สำหรับการฟ้องเรียกค่าชดเชย 179 ล้านบาท คำนวณมาจากรายได้ของน้องแตงโมที่ตนได้พบสเตตเมนต์และเอกสารสัญญานำมาคำนวณใหม่ รู้ว่าลูกสาวมีรายได้เยอะมากใน 1 ปี มีรายได้กว่าสิบล้านบาท จากโฆษณา การแสดง รายการทอล์กโชว์ ละคร ถ้าคำนวณจากปัจจุบันถึงอนาคตจนแตงโมมีอายุไปอีก 20 ปี ส่วนที่ถูกแซนฟ้องกลับรู้สึกว่าตลกเพราะไม่สมควรทำ จำเลยต้องเคลียร์คดีของตัวเองให้บริสุทธิ์ แต่กลับมาฟ้องกลับไม่ได้รู้สึกหนักใจเพราะข้อหาที่เขาฟ้องนำมาจากคำสัมภาษณ์ของตน
ด้านนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน กล่าวว่า จากการที่ศาลมีคำสั่งให้พนักงานอัยการแยกฟ้องคดีมาจากจำเลยที่ให้การปฏิเสธ วันนี้เป็นการนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การและตรวจคำสั่งฟ้องของจำเลยที่เหลือทั้ง 4 คน เนื่องจากจำเลยปฏิเสธในคดีแรกจึงต้องเข้าพิจารณาคดีต่อ ถ้าวันนี้มีคนรับสารภาพอีกโดยหลักก็จะต้องแยกคดีออกไปอีก แต่จากที่คุยทุกคนยืนยันจะต่อสู้คดีที่นางภนิดาบอกว่ามี 2 ใน 4 คน ติดต่อไปหายืนยันว่าไม่มีแน่นอน ส่วนการยื่นฟ้องเรียกค่าเยียวยา 179 ล้านบาท โจทก์ต้องมีหลักฐานยื่นค่าขาดไร้อุปการะต่อศาลก็เป็นสิทธิ์ของโจทก์ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ แต่ทางตนจะไม่มีการพูดคุยกับโจทก์อีกเพราะครั้งก่อนเรียก 40 ล้านบาท จำเลยยังไม่คุย ถ้าครั้งนี้เรียก 179 ล้านบาทก็ไม่รู้จะคุยอะไร พูดไม่ออก ถ้าคุยไปอาจจะเพิ่มเป็น 4 หลัก
แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ กล่าวว่า จำเลยทั้ง 4 คนได้พูดคุยกันว่าทั้งหมดจะให้การปฏิเสธเหมือนเดิม ให้เป็นไปตามความจริง ส่วนปอและโรเบิร์ต หลังจากให้การรับสารภาพไปแล้วได้เจอกันครั้งก่อนมีคุยกันบ้าง สำหรับค่าเยียวยาที่นางภนิดายื่นฟ้อง 179 ล้านบาท ก็อยากให้นางภนิดาเตรียมตัวเพราะตนก็ไม่ยอมในทุกกรณีเช่นกัน
จากนั้นทั้งหมดเข้าห้องพิจารณาคดีเพื่อให้ศาลตรวจความพร้อมสำนวนของฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย นางภนิดาได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอคัดค้านการประกันตัว แซน-วิศาพัช จำเลยที่ 1 ในกลุ่มผู้ต้องหาที่ให้การปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า แซน-วิศาพัช เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดีและมีปัญหากับพนักงานอัยการ แต่เมื่อศาลสอบถามกับอัยการจังหวัดนนทบุรีพบว่าแซน-วิศาพัช ไม่ได้มีพฤติกรรมยุ่งเหยิงพยานหลักฐานตามที่นางภนิดากล่าวอ้าง จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องดังกล่าวไป
ต่อมาศาลจังหวัดนนทบุรีพิเคราะห์จากพยานหลักฐานชิ้นใหม่ ซึ่งเป็นหนังสือสัญญาตกลงว่าจ้างงานต่างๆที่แตงโม-ภัทรธิดา รับงานไว้ ซึ่งจะมีรายได้เฉลี่ยต่อปีกว่า 10 ล้านบาท ศาลจึงมีคำสั่งรับคำร้องตามที่นางภนิดาเป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มจำเลยที่เหลืออีก 4 คน เป็นเงินจำนวน 179 ล้านบาท พร้อมกับนัดตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 29 มิ.ย.66
หลังฟังคำสั่งศาล แซน-วิศาพัช กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่ามี 2 ใน 4 จำเลยติดต่อไปเจรจากับคุณแม่เพื่อขอไกล่เกลี่ยคดีนั้น จากการพูดคุยกันในกลุ่มวันนี้ไม่มีใครติดต่อไปตามที่กล่าวอ้าง ทุกคนยืนยันจะขอต่อสู้ความจริงในชั้นศาลต่อไป ตนกับทนายความก็เตรียมพิจารณาคดีหมิ่นประมาทที่คุณแม่นำเอกสารอันเป็นเท็จมาแจกจ่ายให้สื่อเช่นกัน “ทุกวันนี้ยังไม่เข้าใจว่าคุณแม่คิดอะไรอยู่ รู้สึกสงสัยว่าคุณแม่ทำไปเพื่ออะไรกัน เจตนาคืออะไร อยากให้คุณแม่สงสารพวกเราบ้าง พวกเราก็อยากให้คดีมันจบ แต่เหมือนคุณแม่ต้องการบีบคั้นพวกเรามาก” แซนกล่าวในตอนท้าย
...
ด้านกระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หนึ่งในจำเลยที่เป็นอดีตผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม กล่าวว่า จำนวนเงินที่คุณแม่เรียกร้องค่าเยียวยา 179 ล้านบาท โดยอ้างเป็นรายได้ที่แตงโมน่าจะทำได้ในเวลา 20 ปีที่เหลือนั้น ก็ต้องหาเอกสารหลักฐานมานำสืบ เพราะถ้ามีสัญญาหรือหนังสือว่าจ้างงานต่างๆ ตนก็ต้องเคยเห็น จากที่ทราบมาบางครั้งที่แตงโมไปออกรายการได้ค่าตอบแทนมาแค่ 15,000 บาทต่อรายการ ไม่ได้เป็นหลักแสนหลักล้านบาท และในช่วงหลังแตงโมก็แทบจะไม่รับงานเลยเพราะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า บวกกับปัญหาเรื่องศัลยกรรมอีก น่าจะเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีได้ที่แตงโมไม่ได้รับงานต่างๆ และก่อนที่แตงโมจะเสียชีวิตก็รับเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าเพียงตัวเดียวเท่านั้น ตนก็เป็นคนหางานชิ้นดังกล่าวมาให้ ถ้าคุณแม่จะคำนวณจากปี 60 เป็นต้นมาก็ต้องไปไล่ดูให้ตรงกับข้อเท็จจริงด้วย ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคำนวณรายได้ออกมาถึง 179 ล้านบาท นอกจากนี้ต้องไปดูด้วยว่าแตงโมเคยให้คุณแม่ต่อเดือนเท่าไหร่ เพราะแตงโมเองก็มีค่าใช้จ่ายเยอะพอสมควร ตนรู้ดีว่าแตงโมให้คุณแม่เดือนละเท่าไหร่ แต่ไม่ขอพูดถึง ไม่ได้ตกใจที่คุณแม่เรียกค่าเยียวยาถึง 179 ล้านบาท ก็เรียกไปก่อนเผื่อฟลุก แต่จะได้เท่าไหร่ต้องรอให้ศาลเป็นผู้พิจารณา