ผวจ.ปราจีนบุรี แถลงข่าว สารกัมมันตรังสี "ซีเซียม-137" ห่อหุ้มด้วยท่อเหล็กกลม หายจากโรงงานไฟฟ้าในนิคมอุตสากรรม ตั้งแต่ 23 ก.พ. 66 หาจนทั่วแล้วไม่เจอจึงแจ้ง จนท.ออกค้นหาตามแหล่งรับซื้อของเก่า เผยวัสดุกัมมันตรังสีมีการห่อหุ้มหลายชั้น หากไม่มีการทำลายวัตถุห่อหุ้มจะไม่เกิดอันตรายใดๆ จังหวัดยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 2 พร้อมตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ด้านบริษัทตั้งรางวัลชี้เบาะแสตามหา 5 หมื่น
เวลา 15.00 น. วันที่ 14 มี.ค. 66 นายรณรงค์ นครจิน ผวจ.ปราจีนบุรี ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวเกี่ยวกับการหายไปของชิ้นส่วนกัมมันตภาพรังสี เกิดเหตุที่บริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ประกอบธุรกิจประเภทไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และระบบการปรับอากาศ ให้บริการด้าน การจ่ายไฟฟ้า ติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 (Cesium-137, Cs-137) จำนวน 1 ชิ้น ห่อหุ้มด้วยท่อเหล็กกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ติดตั้งใช้งานเมื่อปี 2538
"วันที่ 11 มีนาคม 2566 เวลา 23.00 น. ปภ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่า วัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายจากบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด จากการรวบรวมข้อมูลได้ความว่ามีวัสดุกัมมันตรังสีสูญหายประมาณวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทฯ ได้สอบถามพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทราบว่า ได้ยินเสียงดังมากเหมือนว่ามีโลหะตกลงพื้นและไม่คิดว่าเป็นวัตถุอันตราย ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ติดตั้งอยู่บนถังไซโลเก็บขี้เถ้า โดยมีความสูงจากพื้นดินประมาณ 16-17 เมตร คาดว่าวัสดุกัมมันตรังสีจะตกอยู่ในพื้นที่ 200 ตารางเมตร จากจุดที่มีการติดตั้ง ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอก มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นใน และห่อหุ้มด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี และมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ โดยวัสดุกัมมันตรังสีผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 28 ปี"
...

หลังสูญหาย บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินภายในโรงงาน และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 50 คน โดยมีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติให้การสนับสนุนการปฏิบัติงาน เพื่อดำเนินการค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในพื้นที่โรงงานทั้งหมด จากการตรวจสอบไม่พบวัสดุกัมมันตภาพรังสีภายในโรงงาน ซึ่งสามารถสรุปได้ว่าอาจมีการนำวัสดุกัมมันตภาพรังสีออกนอกโรงงานไปแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จากอำเภอศรีมหาโพธิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และบริษัทฯ ได้ออกค้นหาและตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือวัดทางรังสีในพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น ร้านขายของเก่า ร้านรับซื้อเศษโลหะมือ 2 เป็นต้น
สำหรับวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหาย เป็นวัสดุกัมมันตรังสีที่ มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็ก วัสดุกัมมันตรังสีจะอยู่ในชั้นในสุด หากวัสดุกัมมันตรังสียังอยู่ในสภาพเดิมจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม กรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหาย มีการถอดประกอบหรือชำแหละเครื่องกำบังที่ ห่อหุ้มจนทำให้วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเปลือยเปล่า จะมีรัศมีการแผ่รังสีออกจากวัสดุกัมมันตรังสีประมาณไม่เกิน 1-2 เมตร หากมีการสัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีโดยตรง จะทำให้ผู้สัมผัสเกิดผื่นแดง หรือเป็นแผลไหม้บริเวณที่สัมผัสวัสดุกัมมันตรังสี จากการประเมินสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม- 137 ที่สูญหายได้หลุดออกจากเครื่องกำบัง ดังนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม

นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้รับแจ้งจากบริษัทฯ ว่าทำชิ้นส่วนฯ หายออกจากโรงงานและได้ติดตามค้นหาเป็นเวลา 3 วัน จึงเป็นที่แน่ชัดว่าไม่ได้อยู่ในโรงงาน และมอบหมายให้หน่วยงานราชการ บริษัทฯ ดำเนินการเตรียมความ พร้อมในการรับมือกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหาย ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรีดำเนินการยกระดับภัย จากภัยระดับ 1 เป็นระดับ 2 ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีดังกล่าว และให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรีจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพนักงานในโรงงานที่อาจได้รับอันตรายจากวัสดุกัมมันตรังสีฯ
นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าของที่หายไปหายไปเองจากสภาพ หรือหายไปเพราะฝีมือมนุษย์ ซึ่งถ้าคนที่เอาไปไม่ทำอะไรก็จะปลอดภัย เพราะบริษัทผลิตมีการป้องกันความปลอดภัยอย่างสูงสุด แต่ถ้าผู้ที่นำไปเอาไปผ่าจะเจอหลอดข้างใน ถ้าหักก็จะเจอซีเซียม ถ้าเจอก็จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จะป่วย ขั้นร้ายแรงก็เป็นมะเร็ง
...
"แท่งนี้ตกจากที่สูงเท่ากับตึก 5 ชั้น ยังไม่เป็นอะไร ฉะนั้นท่านที่นำไปอย่านำไปผ่า ผมเชื่อว่าต้องมีคนหิ้วออกไป ขอความร่วมมือร้านค้าอย่ารับซื้อจากคนที่นำไปขาย อย่าหลอมเหล็ก ถ้าเจอวัสดุลักษณะนี้ท่านอย่านำไปหลอมที่พูดเพื่อเตือน มาตรการต่อไป ราต้องวางแผนเพื่อหาให้เจอ เรื่องนี้ย้ำให้ทางโรงงานหาให้เจอ"
นายสุรินทร์ สืบซึ่ง สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ระดับอันตรายที่จะมีผลต่อสุขภาพ ขนาดเล็กน้อยก็จะมีอาการพุพอง ไหม้ เพิ่มขึ้นมาอีกระดับคือคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ปวดไขกระดูก มากขึ้นอีกระดับจะกระทบระบบประสาทจนถึงเสียชีวิต และระดับสูงสุดจะทำให้เป็นมะเร็ง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ชิ้นส่วนกัมมันตรังสีดังกล่าวนั้นแม้หาไม่เจอ ก็สามารถห่อหุ้มรังสีได้ตลอดไป ส่วนกัมมันตรังสีจะอยู่ได้ประมาณ 300 ปีจึงจะเสื่อมสภาพลง ทั้งนี้หากท่านใดพบเห็นวัตถุดังกล่าว โปรดแจ้งกลับมาที่ อารีย์ จักษ์ตรีมงคล ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท เนชั่นแนลเพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 08-5835-0190 (ตลอด 24 ชั่วโมง) สำหรับผู้ที่ชี้เบาะแสจนสามารถนำวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหายกลับมาได้ จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท.