นิ่มแม่น้องต่อเครียดแถลงข่าวเปิดใจครั้งแรกหลังได้รับประกันตัว ยืนยันโยนลูกชายทิ้งแม่น้ำท่าจีนข้างกอไผ่ อ้างทำแค่คนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว พร้อมขอโทษที่โกหก ทำให้เกิดความวุ่นวาย อยากขอโอกาสสังคมและขอหยุดให้ข่าว อยากกลับไปใช้ชีวิตส่วนตัวกับครอบครัว ด้านเจ้าหน้าที่ระดมทีมกู้ภัยเดินหน้าค้นหาร่างเด็กชายตัวน้อย ประสานตำรวจน้ำลงพื้นที่สำรวจแม่น้ำจุดเกิดเหตุ แต่ยังไม่มีวี่แวว
ปฏิบัติการค้นหาร่าง ด.ช.ต่อ (นามสมมติ) อายุ 8 เดือน ที่หายตัวไปจากบ้าน ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ยังคงเดินหน้าต่อเป็นวันที่ 24 แล้ว หลัง น.ส.นิ่ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แม่เด็กยอมสารภาพความจริงว่าทำลูกตกพื้นจนตายก่อนนำร่างไปทิ้งแม่น้ำท่าจีน ล่าสุด ทีมกู้ภัยจากมูลนิธิต่างๆระดมหาหนูน้อย พบเพียงแพมเพิร์สเด็กจมอยู่ใต้โคลน อยู่ระหว่างส่งไป พิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน 7 ว่าเป็นของน้องต่อหรือไม่ ส่วน น.ส.นิ่มถูกตำรวจดำเนินคดี ก่อนนำตัว ไปฝากขังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐมก่อนได้รับการประกันตัว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ก.พ. น.ส.นิ่ม แม่น้องต่อ เดินทางไปรายงานตัวต่อ ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครปฐม ตามกำหนดนัดรายงานตัวครั้งแรก หลังตกเป็นผู้ต้องหา กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และแจ้งความเท็จ ทั้งนี้ นิ่มมีกำหนดจะต้องไปรายงานตัวอีกครั้งวันที่ 29 มี.ค. และจากการสังเกตนิ่มมีอาการเครียดยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าว
ช่วงสายวันเดียวกัน นายประกอบ ศิลารัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน พร้อมด้วยนายณรงค์ชัย เข็มทอง สารวัตรกำนันตำบลหินมูล นำทีมออกค้นหาน้องต่อบริเวณบ่อน้ำฝั่งตรงข้ามบ้าน นายสิทธิโชค หรือพุทธ แสงสว่าง อายุ 19 ปี สามีนิ่ม บริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่เคยพบผ้าอ้อมสีขาวและขวดนมถูกนำมาทิ้งในป่าหญ้า จากนั้นลงค้นหาในบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยจอกหนาแน่น ใช้เวลากว่า 1 ชม. แต่ไม่พบอะไรเพิ่มเติม นายณรงค์ชัยกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ค้นหาน้องต่อที่คลองท่อเชื่อมต่อแม่น้ำท่าจีนมาหลายวันแต่ไม่เจอ จึงแยกจากเจ้าหน้าที่มาค้นบ่อน้ำแห่งนี้อีกรอบเผื่อจะได้อะไรเพิ่มเติม
...
ต่อมา พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จ.นครปฐม เดินทางมาที่กองอำนวยการค้นหาน้องต่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าของชุดปฏิบัติการที่มีการระดมทีมกู้ภัยจากมูลนิธิต่างๆในทั้งจังหวัดนครปฐมและจังหวัดอื่นๆออกลุยค้นเข้มข้นกว่าทุกวัน ขณะที่ ตำรวจน้ำนำกำลังมาช่วยสำรวจค้นหาหลักฐานในแม่น้ำท่าจีนในจุดที่นิ่มอ้างว่านำลูกชายตัวน้อยมาทิ้ง แนวตลิ่ง ส่วนใหญ่พบแต่เศษเสื้อผ้าและกระสอบปุ๋ย ที่ชาวบ้านนำมาทิ้ง แต่ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง คดีน้องต่อ ใช้เวลาค้นหากว่า 2 ชม. จึงยุติภารกิจ
ที่วัดศิลามูล อ.บางเลน เวลา 16.00 น. น.ส.นิ่ม พร้อมพ่อ นัดผู้สื่อข่าว เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็น ครั้งแรกหลังได้รับการประกันตัว นิ่มกล่าวว่า อยากขอโทษทั้งนักข่าวและตำรวจที่ทำให้วุ่นวาย อยากขอร้อง ว่าจากนี้เรื่องคดีให้ไปถามตำรวจ อย่ามาวุ่นวายกับครอบครัวนิ่ม เพราะนิ่มอยากมีความเป็นส่วนตัว ทุกวันนี้มีคำถามหลายอย่างที่ไม่โอเค นิ่มยืนยันว่านำน้องต่อโยนไว้บริเวณแม่น้ำข้างกอไผ่ ก่อนโยนน้องเสียชีวิตแล้ว ตอนโยนลงไปในน้ำลักษณะของ น้องจมลงทันที น้องต่อสวมใส่เสื้อสีขาวดำ ใส่แต่แพมเพิร์สยี่ห้อโมฟิกไซส์ M ส่วนสาเหตุว่าทำไมถึง โยนน้อง เพราะเกิดจากความกลัว กลัวว่าครอบครัวทราบแล้วจะต่อว่า
“ตอนนี้อยากได้ร่างน้องกลับมาทำบุญ อยากขอโทษที่วันนั้นทำไปโดยที่ไม่ได้คิด อยากปรับเปลี่ยน การใช้ชีวิต อยากเริ่มชีวิตใหม่ นิ่มอยากขอโอกาสกับสังคม ทุกวันนี้ได้รับผลกระทบมาก มันเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจ นิ่มอยากกลับไปเรียนหนังสือ แต่ไม่ได้ฝันไกลถึงว่าอยากจะเป็นหมอ หรือตำรวจ เพราะเกินฝัน ครอบครัวไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต เป็นบทเรียนจากสิ่งที่โกหก” นิ่มกล่าวและว่า ส่วนเรื่องว่าทำไม ไม่เล่าความจริงกับตำรวจ เป็นเพราะว่านิ่มกลัว ไม่กล้า ตำรวจเป็นผู้ชายและเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้คุยแบบเป็นกันเอง จึงไม่กล้าให้ข้อมูลอะไร ยืนยันว่าเรื่องนี้ทำ คนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยวข้อง หากพุทธ สามี รู้ความจริง คงเสียใจ อยากขอโทษทุกคนที่ทำให้วุ่นวาย
ด้านนายศราวุธ คงยืน ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครปฐม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ติดตามคดีน้องต่อ ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เป็นไปตาม บทบาทหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือเหยื่อที่ได้รับ ผลกระทบเกี่ยวกับคดีอาญา เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงยุติธรรมต้องดำเนินการทันที เหตุความรุนแรงและเศร้าสลดครั้งนี้เกิดขึ้นแล้ว ต่อไปต้องร่วมมือกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และศึกษาธิการ เพื่อหาทางป้องกันให้เยาวชน เพราะตอนนี้มีคุณแม่วัยใสค่อนข้างเยอะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำสอง เรื่องนี้ ต้องรอดูว่าตำรวจจะชี้ชัดเป็นคดีอาญาที่ทำให้เสียชีวิต เมื่อวินิจฉัยและพิจารณาแล้วว่า จะต้องดำเนินคดีอย่างไร และนำเข้าสู่กระบวนการอย่างไร กระทรวงยุติธรรมจะมีสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่จะบำบัด ฟื้นฟูผู้ที่พลั้งพลาดในการกระทำผิด รวมทั้งบูรณาการช่วยดูแลครอบครัวว่าควรจะได้รับการดูแลช่วยเหลือเรื่องใดบ้าง
...
ขณะที่ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวถึงคดีดังกล่าวระหว่างเดินทางไปแถลงข่าวจับกุมคนร้ายที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ว่า มอบหมายให้ พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา กับ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7 ไปประชุมเร่งรัดคดี ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อเคลียร์ความชัดเจนทั้งหมด คดีนี้ชุดสืบสวนภาค สืบจังหวัดนครปฐม และโรงพักร่วมกันทำงาน รวมทั้งใช้เครื่องมือพิเศษเข้ามาช่วยเยอะ ส่วนเรื่องอื่นๆอยู่ในสำนวนการสอบสวนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะแม่เด็กยังเป็นเยาวชน ต้องขอเวลาตำรวจทำงานสักระยะ ทุกอย่างต้องคลี่คลาย