ชายอาชีพทอดแหหาปลาในแม่น้ำท่าจีน ใกล้บ้านน้องต่อ เด็กชาย 8 เดือนที่หายจากบ้านตั้งแต่ 5 ก.พ. มั่นใจไม่มีการทิ้งร่างเด็กลงแม่น้ำ เพราะผ่านมาหลายวัน มีการทอดแหโดยคนหาปลาที่มีอยู่จำนวนมากก็ยังไม่พบ เชื่อเด็กไม่ได้อยู่ในน้ำ ขณะที่จนท.นำสุนัขดมกลิ่นในจุดที่ "นายหรั่ง" อ้างว่านำเด็กมาทิ้ง ไม่พบความผิดปกติใดๆ 


เวลา 17.30 น. วันที่ 21 ก.พ. 66 ที่ สภ.บางหลวง จ.นครปฐม ได้มีลุงโอ๋ อาชีพหาปลา ในแม่น้ำท่าจีน ชาวบ้านในละแวกนั้นเดินทางมาทำธุระส่วนตัวที่ สภ.บางหลวง ผู้สื่อข่าวได้เข้าพูดคุยสอบถาม ลุงโอ๋ได้แสดงความคิดเห็นว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่ช่วง 21.00 น. ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่เกิดเหตุ น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือนหายออกจากบ้านในวันที่ 5 ก.พ. ลุงโอ๋ที่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ในแม่น้ำท่าจีน เพราะโดยปกติในช่วงเวลา 20.00-21.00 น. ไปจนถึงเช้ามืด ลุงโอ๋จะออกหาปลาไปเรื่อยๆ ระยะทางห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร



ลุงโอ๋ กล่าวอีกว่า เมื่อได้ทราบข่าว ในระหว่างที่ลงเรือหาปลาหากเจอสิ่งผิดปกติก็จะเปิดผ่าออกดูเพราะอยากช่วยหาเด็กด้วยเหมือนกัน แต่เมื่อเปิดกระสอบและฉีกถุงดูพบว่าเป็นซากเป็ด ซากไก่ ซากแมวตาย บ้างก็เป็นเศษปลาเศษกุ้งที่คนนำมาทิ้ง ไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ หากเจอ ลุงจะให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน เพราะอยากจะเจอเด็กเหมือนกัน

"หากว่ามีการทิ้งเด็กจริง ในการหว่านแหจะต้องมีอะไรติดขึ้นมาบ้าง เพราะแหกินลึกมาก แม้แต่เสื้อผ้าเด็กก็ยังไม่เคยเห็นอะไรที่เกี่ยวกับเด็กเลย เราทำงานทางน้ำก็ยังตั้งใจช่วยกันหาอีกทาง แต่ก็ไม่ได้พบอะไร รัศมีในการหว่านแหลึกมาก จากระดับพื้นดินขึ้นมาสู่ระดับผิวน้ำ สูงกว่า 7-8 เมตร หากเจออะไรจะต้องติดขึ้นมา ในความคิดของเราหากมีตัวเงินตัวทองมากัดกินซากคิดว่าคงต้องรอให้เน่าเปื่อยเสียก่อน ส่วนเรื่องประเด็น ว่าเด็กอาจจะอยู่ในน้ำ ไม่น่าจะมี เพราะมีคนหาปลาเยอะตลอดทั้งเส้นทางยาวกว่า 15-16 กิโลเมตร จะมีเรือคนหาปลาตลอด พรรคพวกเราก็หาปลากันเยอะ หากได้กลิ่นแปลกๆ ก็จะช่วยกันและเป็นหูเป็นตา ส่วนตัวคิดว่าคนที่อยู่ใกล้ตัวเด็กน่าจะรู้ดีที่สุด"

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้นำสุนัขดมกลิ่นจำนวน 2 ตัว สายพันธุ์เยอรมันเชพเฟิร์ด จากบก.สปพ. ตำรวจนครบาล กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ในการเก็บหลักฐานและหาเบาะแสเพิ่มเติมในจุดที่คิดว่าน้องต่อ หายตัวไป

โดยจุดแรกเป็นบ้านร้างหมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ชาวบ้านเคยให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ปกติจะพบเห็นนายหรั่งชอบมานั่งเล่น มานั่งพักผ่อนในจุดนี้ จุดที่ 2 เป็นโรงนา ริมถนนสายเลียบคลองชลประทาน ถนนสายไผ่แสนคน มุ่งหน้าไปยังไผ่หูช้าง ห่างจากจุดแรกประมาณ 500 เมตร เป็นจุดเดียวกันกับที่ป้าบุญล้อมให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พบเห็นนายหรั่งนำเด็กใส่ตะกร้านั่งหน้ารถจักรยานมา

จุดที่ 3 บริเวณดงหญ้า หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ที่นายหรั่งเคยอ้างว่า นำน้องต่อมาทิ้งไว้ แต่เมื่อนำสุนัขตำรวจมาดมกลิ่นกลับไม่พบหลักฐานใดๆ

จุดที่ 4 บ้านหลังหนึ่งหมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ห่างจากจุดที่ 3 ประมาณ 100 เมตร เป็นอีกบ้านที่ให้การอุปการะนายหรั่ง ให้ข้าวให้น้ำและจ้างนายหรั่งทำงาน สำหรับในจุดที่ 4 นี้อาจารย์เจได้เดินทางมาร่วมดูในเหตุการณ์ที่บ้านหลังนี้ด้วย ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม อาจารย์เจตอบว่า ในจุดนี้เมื่อมาถึงแล้วรู้สึกแปลก ตรงกับที่นิมิตเห็นบ้าน 1 หลัง ดอกธูป (ดงปรือชีปะขาว) หมาดุ บ่อน้ำ โดยก่อนที่จะมายืนตรงนี้ได้มีนิมิตขึ้นมา ไม่คิดว่าจะเป็นจุดที่ตรงกัน โดยความรู้สึกมีความรู้สึกว่าใจสั่นแต่ไม่สั่นมาก ถึงขนาดว่าจะได้เจอน้องต่อ

และจุดสุดท้ายคือจุดที่ 5 บ่อปลา หมู่ 6 ต.หินมูล เป็นอีกจุดหนึ่งที่นายหรั่งอ้างว่านำเด็กมาทิ้งไว้ แต่เมื่อสุนัขดมกลิ่นได้ตรวจกลับไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ซึ่งเป็นจุดเดียวกันที่ชุดปฏิบัติการใต้น้ำมางมหาน้องต่อในวันก่อน.