เจ้าหน้าที่ประมง จ.นครสวรรค์ ยุติการค้นหาจระเข้ซึ่งหลุดลงไปในแม่น้ำปิงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของ ส่วนด้านการค้นหาต้องรอดูสถานการณ์เพิ่มเติม
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 17 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดนครสวรรค์ สมาคมกู้ภัยหลวงปู่พิมพา และผู้นำในชุมชน ได้เริ่มปฏิบัติการค้นหาจระเข้ ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยขอความร่วมมือให้ชาวบ้านในพื้นที่กลับเข้าบ้านเรือนของตนเอง และกันพื้นที่ริมน้ำปิงบริเวณหลังวัดหูกวางมิให้รถทุกชนิดเข้ามาในพื้นที่เพื่อต้องการความสงบ รอให้จระเข้โผล่หัวขึ้นมาภายใต้ความมืดและความสงบ ซึ่งคาดว่าจระเข้จะลอยหัวขึ้นมาหาอาหารกิน และจะกลับมายังพื้นที่ซึ่งเคยลง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีท่าทีว่าจระเข้จะขึ้นมาให้เห็น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้หยุดค้นหาจระเข้ไปเมื่อเวลา 23.00 น. เนื่องจากกระแสน้ำบริเวณดังกล่าวไหลแรง และบริเวณโดยรอบมีเสียงดังจระเข้น่าจะตื่น เลยคาดว่าน่าจะไหลตามน้ำไปบริเวณทางตอนใต้ของแม่น้ำปิง
สำหรับการค้นหาในวันพรุ่งนี้จะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ก่อน หรืออาจจะต้องรอให้จระเข้ขึ้นมาอาบแดด จนเห็นตัว หรือไม่ก็ต้องรอให้ชาวบ้านโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าเจอจระเข้
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ประมงได้เข้าไปแจ้งความเอาผิดกับนายบุญช่วย กลิ่นอภัย เจ้าของจระเข้แสนรู้ ในข้อกล่าวหาว่าไม่แจ้งการเคลื่อนย้ายจระเข้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ฝ่าฝืน ม 78 พ.ร.ก.ประมง ประกอบประกาศ ตามมาตรา 78 ที่ส่งให้ โทษตาม 149 และ พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 15 ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือสัตว์ป่าควบคุม หรือกระทำการใด ให้สัตว์ป่านั้นพ้นจากการดูแลของตน ความในวรรคหนึ่งมีให้ใช้บังคับแก่ผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าควบคุมที่ได้มาโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ และได้จำหน่าย จ่าย หรือโอนให้แก่ผู้ที่สามารถ สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือครอบครองสัตว์ป่าดังกล่าวได้โดยชอบตามพระราชบัญญัตินี้ หรือได้ส่งมอบให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมประมงในกรณีที่สัตว์ป่านั้นป็นสัตว์น้ำ
...
ผู้กระทำผิดจะได้รับบทลงโทษตามมาตรา 91 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 15 วรรคหนึ่ง หรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 18 วรรคสอง, มาตรา 660 วรรคสาม, มาตรา 23 วรรคสี่, มาตรา 28 วรรคสอง, มาตรา 30 วรรคสอง หรือมาตรา 33 วรรคสี่ หรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่ออกตามมาตรา 19 วรรคสอง หรือมาตรา 25 วรรคสอง หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 27 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ