ใครเห็นก็คิดว่าตาย หนุ่มควบกระบะชนเสาไฟฟ้าหักโค่น รถพลิกคว่ำหงายท้อง ล้อชี้ฟ้า สภาพพังยับ แต่คนขับไร้รอยขีดข่วน นั่งสบายอารมณ์ริมถนน เชื่อบารมี "หลวงพ่ออุทัยตาทิพย์"
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท รับแจ้งอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี กม.ที่ 159 ม.3 ต.ชัยนาท อ.เมืองชัยนาท รุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท
ในที่เกิดเหตุ พบรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน ผจ 5053 นครปฐม พลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า สภาพพังยับทั้งคัน ตกอยู่ที่กลางถนน เสาไฟฟ้าส่องสว่างหักโค่นอยู่ข้างรถ เจ้าหน้าที่เร่งหาผู้ได้รับบาดเจ็บที่อาจจะติดภายใน เพราะสภาพรถนั้นพังยับเละทั้งคัน ปรากฏว่า ชายที่นั่งอยู่เกาะกลางถนน คือคนขับ ทราบชื่อ นายพัฒนา สีพิมพ์ อายุ 35 ปี ชาวพิจิตร นั่งสบายอารมณ์ ไม่มีแม้รอยขีดข่วน เชื่อเป็นบารมีของรูปเหมือนหลวงพ่ออุทัยตาทิพย์ พระครูสังฆรักษ์อุทัย ปภงฺกโร วัดเกาะตาพุด (วัดศรีมฤคทายวัน) จ.ราชบุรี ที่วางไว้หน้ารถ
...
นายพัฒนา สีพิมพ์ เผยว่า ตนกำลังขับรถมาจาก จ.นครปฐม เพื่อกลับบ้านที่ จ.พิจิตร พอมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง จู่ๆ ก็วูบหลับ ไปชนกับเสาไฟฟ้าดังสนั่นจนตื่นแล้วรถก็พลิกคว่ำ สภาพพังยับ จึงค่อยๆ คลานออกมาทางกระจกฝั่งคนขับ มาดูที่ตัว ไม่มีแม้ร่องรอยขีดข่วน เชื่อว่าที่รอดมาได้ครั้งนี้นั้น มาจากบารมีหลวงพ่ออุทัยตาทิพย์ ล้วนๆ
ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัย เปิดเผยว่า พอได้รับแจ้งเหตุว่ามีอุบัติเหตุติดภายในก็รีบมาที่เกิดเหตุทันที เพื่อประเมินสถานการณ์ เรียกกำลังนำเครื่องตัดถ่าง พอมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถพังยับ ล้อชี้ฟ้า จึงพยายามหาคนขับ สุดท้ายคนขับนั่งชิล ไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย ซึ่งปกติแล้ว สภาพรถที่ชนเสาไฟฟ้าแล้วเละขนาดนี้ ต้องมีการบาดเจ็บ ขาแขนหัก รอยฟกช้ำ แผลแตก หรืออาจถึงขั้นสาหัส เสียชีวิต แต่นี้ไม่เป็นอะไรเลย ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก.