กระบะ ผญบ.ไปรับลูกชายที่ กทม.กลับชัยนาท เสียหลักชนเสาไฟฟ้าริมถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงสามชุก ดับคาที่ 4 ศพ พบรอยรถปีนขึ้นฟุตปาทก่อนชนเสาไฟ ตร.เร่งสอบสาเหตุต่อไป

เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันที่ 7 ธันวาคม 2565 พ.ต.ท.ชัยพร คำสอนทา รักษาการหัวหน้างานสอบสวน สภ.สามชุก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้า มีคนเสียชีวิตหลายราย ที่ถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ 2 อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสามชุก และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณขาเข้าชัยนาท ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงสามชุก ประมาณ 300 เมตร พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ สี่ประตู ทะเบียน สณ 1662 กรุงเทพมหานคร ชนอัดติดกับเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทาง สภาพหน้ารถพังยุบถึงห้องโดยสาร

เมื่อตรวจสอบภายในรถ พบผู้เสียเสียชีวิตที่เบาะนั่งคนขับ 1 ราย และที่เบาะหลังพบผู้เสียชีวิตนอนทับกันอยู่อีก 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงช่วยนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาชันสูตรภายนอกรถ พบผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย มีสภาพคอหัก ในที่เกิดเหตุพบเศษชิ้นส่วนไฟหน้าและยางอะไหล่กระจายเกลื่อนพื้น และก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร พบรอยล้อรถปีนขอบฟุตปาทก่อนที่จะมาชนกับเสาไฟ

...

ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตประกอบด้วย นายธีรภัทร ดวงจินดา อายุ 26 ปี (คนขับ), น.ส.จิตรา เปี่ยมสิน อายุ 41 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลบ้านเชี่ยน อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท, นายมังกรกัณฑ์ ขันตี อายุ 19 ปี บ้านอยู่หมู่ 1 ตำบลเนินขาม อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท และ น.ส.สมปอง สุวรรณบัติ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ตำบลบางนางลี่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

พ.ต.ท.ชัยพร คำสอนทา เจ้าของคดี กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ น.ส.จิตรา เปี่ยมสิน อายุ 41 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลบ้านเชี่ยน ได้ไปรับ นายมังกรกัณฑ์ ขันตี อายุ 19 ปี ลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยมี นายธีรภัทร ดวงจินดา อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นหลานชายเป็นคนขับ และมี น.ส.สมปอง สุวรรณบัติ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ตำบลบางนางลี่ อำเภออัมพวา เพื่อนของผู้ใหญ่จิตรา นั่งไปเป็นเพื่อน กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน

เมื่อถึงที่เกิดเหตุก่อนถึงสี่แยกไฟแดงสามชุกประมาณ 300 เมตร รถเกิดเสียหลักปีนขอบฟุตปาทก่อนชนอัดกับเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทางอย่างแรง ทำให้คนที่นั่งมาในรถทั้ง 4 คนเสียชีวิตคาที่ ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่าคนขับอาจจะง่วงนอนเนื่องจากตื่นแต่เช้า ทำให้อาจจะเพลียแล้วหลับใน อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.