Smart Farmer ด้านข้าวชาวสุพรรณบุรี หวังนำเทคโนโลยีมาพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าว เพื่อให้มีประสิทธิภาพ เสริมคุณภาพการผลิต
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 65 นายพิชิต เกียรติสมพร Smart Farmer ด้านข้าว ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกเกษตรกรคนสุดท้องไม่ชอบการเรียน สืบทอดประสบการณ์อาชีพชาวนา ชาวสวนจากพ่อแม่ ที่มีการใช้สารเคมีเป็นจำนวนมาก ได้ผลผลิตมาก แต่กลับขาดทุน และไม่เป็นที่ต้องการของตลาด ผ่านมา 10 ปี ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมี โดยออกศึกษาดูงานกับเกษตรกรท่านอื่นๆ และเข้ารับการอบรมจากหน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะกรมการข้าว ที่เข้ามาส่งเสริมดูแลในการผลิตข้าวให้ได้ปริมาณคุณภาพตามที่ตลาดต้องการ
ซึ่งจากที่ออกไปศึกษาดูงานแล้ว ก็ได้นำวิธีการ เทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรม มาปรับใช้ในพื้นที่อย่างเหมาะสม ได้นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ครอบคลุมตลอดกระบวนการผลิต โดยการใช้ประโยชน์จากฟางข้าวมาปรับปรุงบำรุงดินก่อน ต้องมีการเก็บตัวอย่างดินมาวิเคราะห์ว่าดินขาดธาตุอาหารอะไรบ้าง ต้องบำรุงแค่ไหนถึงจะเหมาะสมกับพืช เพราะถ้าเราใส่ปุ๋ยเยอะไป ก็จะเพิ่มต้นทุนการผลิต ถ้าใส่ปุ๋ยน้อยไปผลผลิตก็จะไม่ได้คุณภาพ และหัวใจหลักของการทำนาคือน้ำ จึงต้องมีแหล่งน้ำที่เพียงพอตลอดการเพาะปลูก แต่เรามีเทคนิคการทำนาโดยการทำเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว เป็นอุปกรณ์ตัวหนึ่งที่นำไปฝังในแปลงนา เพื่อดูระดับน้ำในแปลงนาว่าอยู่ที่เท่าไร เราจะใช้ท่อ PVC หน้า 4 นิ้ว ความยาว 4 ม. แบ่งความยาวท่อนละ 25 ซม. ได้ทั้งหมด 16 ท่อน (1ไร่ ใช้ 5–8 ท่อน) นำไปเจาะรู จำนวน 40 รู ต่อท่อน โดยแถวบนสุดห่างจากขอบบน 5 ซม. และแถวถัดไปห่างแถวละ 5 ซม. ดูระดับน้ำที่มันแห้งจากหน้าดินลงไปอยู่ใต้ดินที่ระดับไหน เราจึงสมควรที่จะเติมน้ำให้ได้ตามที่ผลผลิตข้าวต้องการ ข้อดี คือ สามารถลดการใช้น้ำได้ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการทำนา และเป็นเรื่องที่เข้ามาใหม่สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรียกว่า ก๊าซคาร์บอนเครดิต สามารถนำไปขายให้กับบริษัทเอกชน ซึ่งตอนนี้มีการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตกันแล้ว จะเห็นผลได้ว่า การทำเปียกสลับแห้งในแปลงนาตามข้อกำหนด และหลักเกณฑ์ก็สามารถได้รับเงินชดเชยจากการที่เราประหยัดน้ำ ได้ผลผลิตที่ได้ แถมได้รายได้เสริมในแต่ละปีอีกด้วย
...
นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกร แค่มี Application (แอปพลิเคชัน) ติดตัวไว้การทำการเกษตรก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยใช้ไลน์บอทโรคข้าว (Rice Disease Linebot) เพื่อการวินิจฉัยโรคข้าว ใช้การวิเคราะห์ภาพถ่ายและปัญญาประดิษฐ์ เป็นบริการวินิจฉัยโรคข้าวผสานไลน์บอท (Line Bot) เมื่อพบต้นข้าวที่สงสัยว่าจะเป็นโรค สามารถถ่ายรูปแล้วอัปโหลดรูปเข้าไปกลุ่มไลน์บอท เพื่อทําการวิเคราะห์โรคข้าว และระบบจะส่งคําวินิจฉัยตอบกลับมา พร้อมคําแนะนําในการแก้ไข สะดวก รวดเร็ว สามารถจะนำไปปรับใช้แก้ไขปัญหาได้ต่อไป.