แม่ 8 สาวไทยร้องมูลนิธิปวีณาฯช่วยลูกสาวถูกหลอกไปทำงานนวดแผนไทยประเทศ ไนจีเรีย ก่อนบังคับให้ค้าประเวณี หลังสมัครงานทางเฟซบุ๊กไปอยู่ในร้านคนไทยที่มีผัวเป็นชาวไนจีเรีย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ได้เงินเดือนสูงถึง 50,000 บาท เดือนแรกจ่ายครบ เดือนต่อมากลับให้ไม่ถึงครึ่ง หากอยากได้เพิ่มต้องขายบริการทางเพศกับแขก เหยื่อไม่ยอมโดนทำร้าย ขังอยู่ในห้อง มีผู้เสียหายสาวไทยอีก 4 คนตกอยู่สภาพเดียวกัน “ปวีณา” ออกโรงเตือนหญิงไทยอย่าหลงเชื่อ เผยปี 65 มีคนถูกหลอกถึง 115 คน

แม่ร้องขอความช่วยเหลือลูกถูกหลอกให้ไปทำงานนวดแผนไทยที่ประเทศไนจีเรียก่อนบังคับค้ากาม เปิดเผยเวลา 13.00 น. วันที่ 7 พ.ย.ที่มูลนิธิ ปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธานสภา อบต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ พาแม่ของหญิงไทย 8 คน แยกเป็น จ.กาฬสินธุ์ 2 คน จ.ขอนแก่น 4 คน และ จ.หนองบัวลำภู 2 คน เข้าร้องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้ช่วยเหลือลูกสาวถูกหลอกไปทำงานนวดแผนไทยที่ประเทศไนจีเรีย ก่อนบังคับให้ค้าประเวณี แต่ผู้เสียหายไม่ยอมถูกทำร้ายร่างกาย กักขัง ยึดพาสปอร์ต

นายกอบโชคชีพเปิดเผยว่า จากการสอบถามแม่สาวไทยที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีทราบว่า เดิมลูกสาวผู้เสียหายทั้ง 8 คนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ต่อมามีการติดต่อหางานทางเฟซบุ๊กที่โฆษณารับสมัครสาวไทยไปทำงานนวดแผนไทยที่ประเทศไนจีเรีย โดยจะได้รับค่าจ้างเดือนละ 50,000 บาท ผู้เสียหายทุกคนไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะเป็นร้านหญิงคนไทยที่มีสามีเป็นชาวไนจีเรีย ทั้งหมดบินไปทำงานช่วงกลางเดือน พ.ค.65 ในเดือนแรกได้รับเงินเดือน เดือนละ 50,000 บาท ตามที่ตกลงกัน แต่เดือนต่อมาได้เพียง 21,000 บาท แต่หากอยากได้เพิ่มต้องค้าประเวณีกับแขกที่มาใช้บริการ

...

นายกอบโชคชีพกล่าวอีกว่า เมื่อผู้เสียหายเห็นว่ารายได้ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ทั้งหมดขอเดินทางกลับไทย แต่นายจ้างไม่ยอมให้กลับอ้างว่าจะต้องอยู่ทำงานชดใช้ให้หมดก่อน ก่อนยึดพาสปอร์ตผู้เสียหายทั้งหมด โดยมีหญิงไทยอีก 4 คนที่เดินทางไปทำงานร้านดังกล่าวตกอยู่สภาพเดียวกัน แต่ผู้เสียหายทั้งหมดไม่ยอมค้าประเวณี ถูกทำร้ายร่างกาย และกักขังไว้ในห้องไม่สามารถออกไปไหนได้ จึงแชตมาหาแม่นำเรื่องมาขอความช่วยเหลือและพามาร้องมูลนิธิปวีณาฯ หาช่องทางพาผู้เสียหายทั้ง 12 คนกลับประเทศไทย

นางปวีณาเปิดเผยว่า หลังรับเรื่องจะประสานอธิบดีกรมการกงสุล มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศช่วยติดตามให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งจะประสานตรงไปยังเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศไนจีเรียช่วยเหลือหญิงไทยอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนหญิงไทยว่าอย่าไปหลงเชื่อหางานทำในเฟซบุ๊ก เพราะอาจตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ และค้าประเวณีในประเทศต่างๆ ซึ่งมีการทำกันเป็นขบวนการหลอกลวงในประเทศไทยและประเทศปลายทาง

ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวอีกว่า ในปี 2565 มูลนิธิปวีณาฯรับเรื่องราวร้องทุกข์หญิงไทยถูกหลอกค้าประเวณีต่างประเทศถึง 115 ราย ประกอบด้วย กัมพูชาจำนวน 36 ราย บาห์เรน 19 ราย ไนจีเรีย 12 ราย พม่า 11 ราย ดูไบ 10 ราย ฟิลิปปินส์ 8 ราย โอมาน 5 ราย เกาหลี 3 ราย มาเลเซีย 2 ราย และประเทศอื่นๆอีก 9 ราย มูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือกลับมาแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังอยู่ระหว่างการช่วยเหลือ