ชาวบ้านในหมู่บ้านย่านบางบัวทอง ผวาทั้งหมู่บ้าน ชายคลุ้มคลั่งคุ้มดีคุ้มร้าย มาหาเรื่องหาว่ามองหน้า ปีนไปใช้ปืนปลอมทุบกระจกรถปาเจโร่ถูกบาดเลือดสาด ก่อนหน้านี้ก็เคยก่อเหตุหลายครั้งจนไม่กล้าออกมานอกบ้าน บางคนทนไม่ไหวต้องย้ายหนี ล่าสุดศาลตัดสินจำคุก 1 เดือน แต่หวั่นพอออกมาจะก่อเหตุอีก วอนญาติพาไปรักษาให้หาย 

จากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำคลิปเหตุการณ์ชายวัยกลางคน สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว ก่อเหตุเหยียบขึ้นฝากระโปรงรถยนต์ของเพื่อนบ้านขึ้นไปใช้อาวุธปืนปลอมทุบกระจกหน้ารถหลายครั้งจนถูกกระจกบาดเลือดกระเด็นสาดไปทั่วหลังคารถ และนั่งบนฝากระโปรงรถลักษณะคล้ายคนเสียสติคลุ้มคลั่ง สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านโดยเฉพาะกับทางเจ้าของรถซึ่งเป็นผู้โพสต์คลิปดังกล่าว

ล่าสุดวันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหมู่บ้านเกิดเหตุในอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้พบกับนายอู๋ ไกรฤกษ์ อายุ 45 ปี เจ้าของรถที่ถูกชายคลุ้มคลั่งทุบรถจนได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ชายคลุ้มคลั่งได้วิ่งขึ้นมาเหยียบฝากระโปรงรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ของตนแล้วใช้อาวุธปืนปลอมทุบที่กระจกรถหลายครั้งจนกระจกหน้ารถแตก เหตุเกิดช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยที่ไม่ทราบสาเหตุมาก่อน เนื่องจากตนกับแฟนเพิ่งย้ายมาอยู่อาศัยที่นี่ได้เพียง 6 เดือนและก่อนหน้านี้ก็ถูกชายคนนี้วิ่งมาตะโกนที่หน้าบ้าน พูดจาในทำนองว่าตนไปมองหน้า ทั้งๆ ที่ไม่เคยไปมองหน้าเขา ไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย หลังจากนั้นต้องกั้นรั้วเสริมขึ้นมาเพิ่ม เพื่อไม่ให้เขามองเห็นเพราะพฤติกรรมของเขาที่คนในหมู่บ้านนี้เจอมาก็คือ ถ้าเขามองเห็นหน้าใครก็จะอาละวาดด่าทอทันที โดนกันมาหมดทุกคนทุกหลังแล้ว และมีเพื่อนบ้านรายหนึ่งถูกทำร้ายร่างกายด้วย จนต้องขายบ้านย้ายหนีออกไป

...

นายอู๋ กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุ หลังจากโทร.ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ตำรวจได้มาควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนายจีรศักดิ์ ขาวสุข อายุ 38 ปี ไปดำเนินคดี ถูกนำตัวส่งฟ้องศาลและถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งตนก็ไม่รู้มาก่อนว่านายจีรศักดิ์ผู้ก่อเหตุรายนี้ป่วยเป็นอะไร หรือสาเหตุอะไรที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ แต่คิดว่าเขาคงมีปัญหาอะไรสักอย่าง ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ได้ทำประกันชั้น 2 บวกไว้ ทำให้ต้องจ่ายค่าซ่อมรถเอง เพราะผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ตามลำพังคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องติดต่อมารับผิดชอบชดใช้ ซึ่งอาจจะฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกับนายจีรศักดิ์ต่อไป

"รถยนต์ได้ด้รับความเสียหายฝากระโปรงรถบุบ กระจกหน้ารถแตก ที่ปัดน้ำฝนหัก ตัวเซนเซอร์และฟิล์มติดกระจกรถก็เสียหายหมด ส่วนสาเหตุที่ต้องนำคลิปเหตุการณ์ไปโพสต์ในโซเชียลนั้น เพราะต้องการให้สังคมรับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นของคนในหมู่บ้านแห่งนี้ ที่กำลังหวาดกลัว หวั่นวิตกหมดแล้วว่า หากผู้ก่อเหตุถูกปล่อยตัวกลับมาอาศัยที่เดิมอีก ทุกคนในหมู่บ้านจะอยู่กันด้วยความหวาดระแวงต่อไปอีก เหมือนอยู่ในพื้นที่อันตราย ไม่มีความปลอดภัย เพราะไม่รู้ว่าจะไปก่อเหตุกับใคร บ้านหลังไหนอีก ทั้งๆ ที่ในหมู่บ้านก็มีเด็กๆ อาศัยอยู่กันเยอะ ทุกคนต้องช่วยเป็นหูเป็นตาให้กัน"

ทางด้าน น.ส.ธนาภา อายุ 39 ปี เพื่อนบ้านอีกราย กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้เคยก่อเหตุจับลูกจับเมียของเขาเป็นตัวประกันแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ลักษณะอาการของเขาคล้ายกับคนคลั่งหรือหลอนยา จนคิดว่าอยู่ในหมู่บ้านนี้ไม่มีความปลอดภัยเลยจึงพยายามไม่ออกจากบ้าน แต่คนมาอยู่ใหม่เขาไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างในหมู่บ้านนี้ ก็ไม่คิดเขาจะเกิดคลุ้มคลั่งอาละวาดหนักกว่าเดิมอีก อยากให้ทางบ้านหรือครอบครัวมารับเอาตัวไปรักษาให้หายขาด เพราะถ้าหากเขากลับออกมา และอาการยังคุ้มดีคุ้มร้ายแบบนี้อีกก็เหมือนเอาเขามาปล่อยทิ้งให้เขาเป็นภัยคุกคามกับสังคมคนในหมู่บ้านอีก และหากวันหนึ่งมีคนที่เขาทนไม่ไหว ต้องปกป้องบ้านปกป้องครอบครัว ไปทำร้ายเขาก็จะซวยไปอีก หรือจะต้องให้คนในหมู่บ้านอดทนกับพฤติกรรมคลุ้มคลั่งแบบนี้ต่อไป ทุกวันนี้ก็เป็นห่วงเด็กๆ ในหมู่บ้าน หากออกมาวิ่งเล่นแล้วมาเจอเขาอะไรจะเกิดเรื่องขึ้น เพราะก่อนหน้านั้นก็มีพฤติกรรมเที่ยวเดินไปลองเปิดประตูบ้านคนอื่นๆ ดู หากบ้านไหนลืมล็อกเขาก็เปิดประตูเข้าไปเลย แบบนี้ถามว่าความปลอดภัยของคนในหมู่บ้านอยู่ตรงไหน

น.ส.แอน (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งมีบ้านติดกับบ้านผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เท่าที่เจอ เขาจะมาหาเรื่องกวนประสาทบางครั้งก็ออกมายืนด่า แล้วหันหน้ามาทางบ้านเรา ฉีดน้ำใส่สาดน้ำหรือถุยน้ำลายใส่ ที่หนักที่ตนเจอก็คือปาขี้ดินเข้ามาที่บ้าน 2 วันติด ปกติเขาก็จะคลุ้มคลั่งอาละวาดโวยวายอยู่ในบ้านเขา ส่วนสาเหตุน่าจะเกี่ยวกับการเสพยาเสพติดมากจนมีอาการทางประสาท