สะเทือนวงการ พ่อค้าไก่ย่างหมุนชาวกำแพงเพชรสุดแสบ ปลอมใบอนุญาตให้เป็นทนายความสวมครุยขึ้นว่าความ ก่อนเรื่องแดงผู้เสียหายเอาคำพิพากษาไปตรวจสอบ พบความจริงเป็นทนายเก๊ ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดกำแพงเพชรต้องหอบหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิด กระทั่งจับตัวได้ที่บ้านพักดัดแปลงเป็นสำนักงานทนายความ โฆษกศาลยุติธรรมถึงกับออกปากไม่เคยมีมาก่อน ด้านรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุอัยการจังหวัดกำแพงเพชรยืนยันยังไม่พบสำนวนคดียักยอกทรัพย์ที่ทนายเก๊รายนี้ว่าความชนะอัยการ ส่วนนายกสภาทนายฯบอกอุกอาจและร้ายแรงมาก ต้องหาแนวทางป้องกันร่วมกับศาลยุติธรรม
จากกรณีสมาชิกกลุ่มเฟซบุ๊ก “ทนายอาสา ปรึกษาในกลุ่มฟรี โดยทนายอาชีพ” รายหนึ่งออกมาตีแผ่ถึงพฤติกรรมบุคคลแอบอ้างเป็นทนายความแสวงหาผลประโยชน์ แท้จริงกลับเป็นพ่อค้าไก่ย่างหมุน ปลอมใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ใช้เลขหมายใบอนุญาตของบุคคลอื่นซึ่งไม่ตรงกัน สวมใส่ครุยขึ้นว่าความในศาล ทำมานานหลายปี ก่อนจะมีการเปิดเผยชื่อของผู้ก่อเหตุรายนี้คือ นายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์ พ่อค้าขายไก่ย่างหมุน ชาว จ.กำแพงเพชร ทั้งนี้เจ้าตัวขึ้นว่าความในศาลมาหลายคดี มีทั้งแพ้และชนะ นอกจากนี้ยังมีบางคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ต่อมามีผู้เสียหายที่เคยให้ผู้ก่อเหตุรายนี้ว่าความ ตรวจสอบคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดกำแพงเพชร แล้วปรากฏว่าไม่เคยมีคำพิพากษาในคดีนี้เลยและเมื่อตรวจสอบไปยังสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ไม่พบประวัติของนายพรเทพทนายความกำมะลอรายนี้ ก่อนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้เป็นวงกว้างสะเทือนไปทั้งระบบของกระบวนการศาลยุติธรรม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ต.ค. พ.ต.ท.สุวิช พิศอ่อน สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกำแพงเพชร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจับกุมทนายความกำมะลอรายนี้ เปิดเผยว่าคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย. โดยนางศศิปภัสร์ ศศิอริยธนภัทร ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดกำแพงเพชร เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนว่านายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์ อายุ 34 ปี แสดงตนเป็นทนายตามใบอนุญาตเลขที่ 1131-2565 ประเภทตลอดชีพ เข้ามายื่นใบแต่งทนายความขอเป็นโจทก์ร่วมต่อศาลจังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นเข้าว่าความ ต่อมาศาลจังหวัดกำแพงเพชรได้รับการประสานจากผู้เสียหายให้ช่วยตรวจสอบข้อมูล ทั้งในประเด็นเกี่ยวกับคำพิพากษาและข้อมูลของทนายความรายนี้ กระทั่งพบนายพรเทพไม่มีชื่อในข้อมูลทะเบียนของสภาทนายความในพระบรม ราชูปถัมภ์ ทั้งหมดจึงมาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายพรเทพ ในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอมในการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
...
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชรจับกุมนายพรเทพได้ที่บ้านดัดแปลงเป็นสำนักงานทนายความของผู้ต้องหา เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีประตูกระจกติดข้อความว่า รับว่าความทั่วราชอาณาจักร คดีแพ่ง-อาญา พร้อมเบอร์ติดต่อ อยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.คนฑี อ.เมืองกำแพงเพชร สอบสวนผู้ต้องหารายนี้รับสารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง ขณะนี้นายพรเทพอยู่ระหว่างการคุมตัวไปฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดกำแพงเพชรแล้ว
มีรายงานว่าก่อนหน้านี้นายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์ พ่อค้าไก่ย่างหมุนรายนี้ เคยสอบใบอนุญาตให้เป็นทนายความของสภาทนายความในภาคทฤษฎีผ่านมาแล้ว แต่ต้องสอบภาคปฏิบัติอีกหนึ่งด่านก่อนที่จะได้ใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ทั้งนี้เจ้าตัวเคยผ่านการฝึกงานในสำนักงานทนายความมาแล้วทำให้เรียนรู้ขั้นตอนการทำงานต่างๆได้เป็นอย่างดี ก่อนจะนำความรู้ต่างๆนั้นมาก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบประวัติพบนายพรเทพจบการศึกษาชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยภาคกลางนครสวรรค์ ปี 2554-2555
ที่สำนักงานศาลยุติธรรม นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยกรณีดังกล่าวว่าเพิ่งได้รับรายงาน และยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีกี่คดี เป็นคดีความอย่างไร จากนั้นก็เป็นดุลพินิจของผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีนั้นๆที่จะดำเนินการขั้นตอนต่อไป อาทิ นำคดีที่ตัดสินไปแล้วมาพิจารณาตรวจสำนวนคดีใหม่ หรือพักการพิจารณาที่อยู่ระหว่างไต่สวนสืบพยานไปก่อน
“ที่ผ่านมาผมไม่เคยพบว่ามีการปลอมเป็นทนายมาขึ้นว่าความในศาลมาก่อน แต่จากที่ได้รับรายงานของศาลจังหวัดกำแพงเพชร ได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจแล้ว เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา แต่ในส่วนของศาลหากพบว่ามีความผิด จะมีการไต่สวนละเมิดอำนาจศาลตามกฎหมายต่อไป” นายสรวิศกล่าว
ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีมีข่าวพ่อค้าไก่ย่างหมุนปลอมเป็นทนายความและว่าความชนะอัยการในคดียักยอกทรัพย์ ว่า นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดได้มอบให้ตนตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน หลังจากที่ตนประสานงานไปยังนายธนพล ประเสริฐดี อัยการจังหวัดกำแพงเพชร ได้รับคำตอบกลับมาว่าทางสำนักงานอัยการและเจ้าหน้าที่ศาลได้ช่วยกันตรวจสอบหาสำนวนตามที่ เป็นข่าว ยังตรวจไม่พบสำนวนคดีดังกล่าว พบแต่คดีข้อหาฉ้อโกงซึ่งบุคคลตามข่าวได้ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการและคดีดังกล่าวตกลงกันได้ศาลจึงจำหน่ายคดี ข่าวที่เกิดขึ้นจึงไม่ปรากฏสำนวนคดียืนยันว่าเป็นเรื่องใด ขณะนี้เร่งรัดตรวจสอบหาคดียักยอกตามข่าวต่อเนื่อง หากตรวจพบจะรายงานเข้ามาที่สำนักงานอัยการสูงสุดทันที
ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ นายสุนทรพยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความฯ นายวีรศักดิ์ โชติวานิช รองโฆษกสภาทนายความฯ แถลงข่าวกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องตันพบว่าบุคคลที่แอบอ้างไม่ได้เป็นทนายความ ดังนั้นการกระทำของบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายอยู่ในหลายบท ส่วนแรกเข้าข่ายการกระทำความผิด ม.33 พ.ร.บ.ทนายความฯ ซึ่งกำหนดไว้ว่าห้ามมิให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นทนายความหรือถูกพักหรือถูกลบชื่อจากการจะใช้ความไปว่าความในศาลรวมทั้งยื่นคำร้องคำฟ้องต่างๆ ซึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าวจะมีโทษตาม ม.82 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดตาม ป. อาญา ฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ฉ้อโกงประชาชน
ทั้งนี้นายวิเชียร ชุบไธสง ยังกล่าวด้วยว่า จากประสบการณ์ครั้งนี้ถือว่ารุนแรง เป็นการกระทำที่อุกอาจและร้ายแรงมาก ส่วนผลของคำพิพากษาบางคดีทราบว่าศาลได้พิพากษาไปแล้ว ตรงนี้ถือเป็นดุลพินิจของศาลว่าจะพิจารณาต่อไปแบบไหนอย่างไร ส่วนคดีที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณาศาลสามารถเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผ่านมาได้ เพราะถือว่าเป็นกระบวนพิจารณามิชอบ โดยจะให้เริ่มแต่งตั้งทนายความที่แท้จริงเข้ามาใหม่ มีความตั้งใจว่าข้อมูลของสภาทนายความฯและศาลยุติธรรมเชื่อมโยงกันเพื่อให้มีการตรวจสอบเวลามีการแต่งตั้งทนายความเข้าไปในคดี ศาลสามารถตรวจสอบได้ อันนี้จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะนี้ขึ้นอีก ถือเป็นแนวคิดที่ต้องเข้าไปพูดคุยกับทางสำนักงานศาลยุติธรรม
...
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์ เป็นบ้านชั้นเดียว เปิดเป็นสำนักงานทนายความ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.คณฑี อ.เมืองกำแพงเพชร พบนางกิมไล้ คะเชนทร์ภักดิ์ อายุ 60 ปี แม่ของผู้ต้องหา พักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าวกับหลานสาวอีกสองคน ซึ่งเป็นลูกของนายพรเทพ นางกิมไล้เปิดเผยว่า ไม่ทราบลูกชายทำความผิดอะไร ก่อนหน้านี้ประมาณสองปี นายพรเทพเคยขายไก่ย่างหมุนอยู่ในพื้นที่ อ.ไทรงาม และ อ.ทรายทองวัฒนา หลังจากนั้นก็กลับมาอยู่ที่บ้านแล้วรับว่าความ ส่วนในรายละเอียดอื่นตนไม่รู้เรื่องรู้แต่เพียงว่าลูกชายหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงลูกชาย อยากจะไปประกันตัวออกมาไม่อยากให้ลูกติดคุกเนื่องจากเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเงินส่งเสียเลี้ยงดูทั้งครอบครัว หากขาดลูกชายไปก็ยังไม่รู้ว่าจะอยู่กันยังไง ระหว่างนั้นนำรูปถ่ายตอนที่นายพรเทพรับปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยภาคกลาง จ.นครสวรรค์ให้ดู แต่ไม่ทราบเรียนจบคณะอะไร
ส่วนที่ตลาด อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ที่นายพรเทพอ้างเคยมาขายไก่ย่างหมุน จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างยืนยันไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ทั้งนี้ นายพรเทพอาจจะไม่ได้ขายในตลาดแต่ไปขายตามแผงข้างทาง