ชาวบ้านชุมชนบ้านปากลัด ทำพิธีฝังศพหนุ่มวัย 15 ปีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขี่จยย.เสียหลักชนราวเหล็กตาย ชี้ถนนทำด้วยซี่เหล็กไม่ปลอดภัยในการขับขี่ ขณะที่ เทศบาลเมืองลัดหลวงรับเรื่องนำไปปรับปรุง
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 ต.ค. 65 ที่มัสยิดดารอสอาดะห์ (สุเหร่าบ้านปากลัด) ถนนนครเขื่อนขันธ์ หมู่ที่ 17 ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ มีการจัดพิธีละหมาดและฝังศพนาย รพีพัฒน์ เผ่าโนรี อายุ 15 ปี ผู้ประสบเหตุ ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ แล้วเกิดเสียหลักจากถนนเหล็กพุ่งเข้าชนราวเหล็กเสียชีวิตที่เกิดเหตุภายในซอยนครเขื่อนขันธ์ 2 ทางพ่อแม่ญาติได้รับศพมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม ในวันนี้และจะทำการฝังศพในเวลา 13.30 น. ที่กุโบร์ บ้านปากลัด (สุสานบ้านปากลัด) โดยมีชาวบ้านในชุมชนเดินทางมาแสดงความเสียใจ และบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
จากนั้นมีกลุ่มตัวแทนชาวบ้านได้ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับญาติผู้เสียชีวิต ที่เกิดจากอุบัติเหตุและเกิดจากถนนเส้นนี้ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนในชุมชน พอถึงเวลาประกอบพิธีละหมาดเสร็จแล้ว ก็จะเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปที่กุโบร์ บ้านปากลัด หรือสุสานบ้านปากลัดเป็นสถานที่ฝังศพ โดยการเคลื่อนย้ายในครั้งนี้เป็นการแบกโลงศพจากสุเหร่าไปที่กุโบร์เป็นระยะทางประมาณกว่า 1 กิโลเมตร
...
จากนั้นมีกลุ่มตัวแทนชาวบ้านได้มีการพูดคุยหน้าขบวนแห่ศพ ถึงสาเหตุในการเกิดเหตุในครั้งนี้จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัสจากถนนสายมรณะ และมีการถือป้ายเรียกร้องความเป็นธรรมและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข และดำเนินการเปลี่ยนแปลงถนนเส้นนี้ ให้เกิดความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนหรือชาวบ้านในชุมชนดังกล่าว เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองลัดหลวงได้ลงมาในพื้นที่ถนนที่เกิดเหตุ แต่ชาวบ้านก็บ่นบอกเป็นเสียงเดียวว่า มาดูเดี๋ยวก็เงียบไปเหมือนเดิม
สำหรับชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งมีบ้านเรือนประมาณ 5,000 กว่าหลังคาเรือน และมีประชากรที่อยู่ในชุมชนมากกว่า 3 หมื่นกว่าคน ชาวบ้านจึงอยากให้หน่วยงานหรือท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลงมาตรวจสอบความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ ในการใช้ถนนเส้นนี้สัญจรไปมาเพื่ออยากให้เกิดความปลอดภัยและความมั่นใจกับชาวบ้านในชุมชน
นายวินนท์ แสงมาน อายุ 69 ปี ตัวแทนชาวบ้าน ได้กล่าวว่า ถนนเส้นนี้ สร้างเสร็จมาราว 10 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ แต่เดิมเป็นคลอง และมีสะพานทางเดินข้างคลอง จนได้พัฒนามาเป็นถนนที่รถขนาด 4 ล้อ ผ่านเข้าออกได้ โดยถนนเส้นนี้สร้างมาเพื่อใช้ประโยชน์ในการสัญจรผ่านไปมา และให้สะดวกในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน รถฉุกเฉินต่างๆ เช่น รถพยาบาล รถกู้ภัย รถดับเพลิง จะได้เข้าถึง เพื่อระงับเหตุต่างๆ โดยถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ตัดเข้าสู่ชุมชน ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่มีประชากรนับหมื่นคนอาศัยอยู่ จึงอยากให้หน่วยงานที่ดูแลอยู่ เข้ามาปรับปรุงแก้ไข ให้เกิดความปลอดภัย กรณีมีฝนตก ก็มักเกิดอุบัติเหตุ และเคสนี้ ถือเป็นครั้งที่มีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กอายุเพียง 15 ปี จากอุบัติเหตุ ตนเองก็อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย กับอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดเช่นนี้
...
ด้าน นายยุทธศิลป์ ป้องหลักคำ (รองปลัด) รักษาการแทนนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองลัดหลวง กล่าวว่า ตนเองพึ่งเข้ามารับตำแหน่ง แต่ก็พอได้ยินการเกิดอุบัติเหตุกับถนนเส้นนี้มาบ้าง โดยถนนเส้นดังกล่าวที่ชาวบ้านเรียกว่าถนน ตนเองยืนยันว่า คือ สะพาน เนื่องจากด้านล่างนั้นเป็นคลองน้ำ และที่ได้วางเหล็กตะแกรงแบบนี้ เพราะด้านล่าง คือ คลองจึงจำเป็นต้องวางตะแกรงเหล็กเพื่อให้มีแสงสว่างสองถึง และคลองไม่อุดตัน สามารถเปิดเพื่อขุดลอกได้ โดยหลังจากนี้ จะมีการวางป้ายเตือนให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ให้ใช้ความเร็วที่เหมาะสม นอกจากนี้จะมีสัญญาณไฟวาบๆ เพื่อเตือนผู้ขับขี่เป็นระยะๆ ตลอดแนวถนน และขอแสดงความเสียใจกับทางญาติของผู้เสียชีวิตกับเหตุการณ์ดังกล่าว.