น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนแล้วกว่า 100 หลัง ระบายออกในอัตรา 2,590 ลบ.ม./วินาที สร้างที่ว่างรองรับน้ำเหนือจากพายุโนรู เกิดเหตุสลด พระวัดไผ่ล้อม อ.สรรพยา รีบไปอุ้มศพคุณตาวัย 98 ปี ที่เสียชีวิตขณะที่พนังกั้นน้ำแตก ออกจากบ้านก่อนจมน้ำ
วันที่ 30 กันยายน สถานการณ์น้ำ ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลาง พบว่าน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำฝนจากทางตอนบนประเทศ วัดได้อัตรา 2,598 ลบ.ม./วินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ล่าสุดวัดได้ +17.06 เมตร ทำให้ชุมชนริมน้ำเหนือเขื่อน ในพื้นที่ ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่สูง 50-60 ซม. บ้านเรือนประชาชนที่ต้องจมอยู่ใต้น้ำกว่า 100 หลัง ทางราชการได้เข้าสำรวจให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้คงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 2,590 ลบ.ม./วินาที เพื่อรักษาสมดุลของน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน และเร่งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำเหนือเขื่อน รองรับมวลน้ำเหนือ ที่จะมีมากขึ้นจากอิทธิพลของ “พายุโนรู” ซึ่งจากที่คงการระบายน้ำในเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเริ่มทรงตัว เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมาวัดได้+16.10 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
...
จากระดับน้ำที่ยกตัวขึ้น ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนวัดมะปราง ต.โพนางดำออก และชุมชนวัดศรีมงคล พื้นที่ ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ชาวบ้านต้องรีบเก็บข้าวของขึ้นบนชั้น 2 รวมทั้งการทำนั่งร้านเพื่อยกของขึ้นวางหนีน้ำอย่างเร่งด่วน โดยในปีนี้ชาวบ้านบอกว่า หมู่บ้านมีมติร่วมกันแล้วว่าจะไม่มีการกั้นแนวกระสอบทราย ขอปล่อยให้เป็นไปตามวิถีของธรรมชาติ โดยปัจจุบันมีบ้านเรือนประชาชนชุมชนวัดมะปราง และชุมชนวัดศรีมงคล ถูกน้ำท่วมที่ความสูง 60-120 ซม.กว่า 1,500 หลังคาเรือน
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่น้ำท่วม ได้รับรายงานเพิ่มเติมอีก 4 ตำบลคือ ต.ตลุก ต.บางหลวง ต.โพนางดำออก และตำบลโพนางดำตก รวมมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 2,000 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องออกมาสร้างเพิงพักบนถนนคันคลองมหาราช และถนนสายต่างๆ เพื่อใช้เป็นที่นอนชั่วคราวแล้วนับพันครอบครัว ทางราชการกำลังเร่งจัดหาความช่วยเหลือเข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน

ขณะเดียวกัน ที่วัดไผ่ล้อม ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา พระสมุห์นพพร ญาณสัมปันโน เลขานุการ ได้อุ้มศพนายเภา ทองสอาด อายุ 98 ปี ชาวบ้านในชุมชนใกล้วัดที่เสียชีวิตในบ้านด้วยโรคชรา ทางวัดได้รับแจ้งจึงไปอุ้มออกมา เพราะพนังกั้นน้ำพัง มีน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านสูงเกือบเมตร โดยจะศพนำมาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป