นายกสภาทนายความ เผย จะให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ในการฟ้องร้องทางอาญาทางแพ่งทางปกครอง กรณีสารเคมีรั่วไหลที่ จ.นครปฐม รวมทั้งว่าความในคดีเกี่ยวข้อง เพื่อให้คนผิดรับโทษ และชดใช้สินไหม
ที่สภาทนายความ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 ก.ย.2565 ดร.วิเชียร ชุปไธสง นายกสภาทนายความ นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยี นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าว กรณีสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานในพื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
ดร.วิเชียร กล่าวว่า กรณีที่มีสารเคมีได้รั่วไหลไปสู่เขตชุมชน และฟุ้งกระจายไกลไปถึงกรุงเทพมหานครและนนทบุรี สภาทนายความเห็นว่า เหตุการณ์ครั้งเป็นคดีส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม สภาทนายความมีประสบการณ์ทางคดีกับคดีคลิตี้ ที่ปล่อยสารตะกั่วลงนาข้าวที่ จ.กาญจนบุรี คดีชาวบ้านเก็บขยะมาขายเก็บสารโคบอลต์ 60 ที่ทำให้ผู้สัมผัสเป็นมะเร็ง รวมทั้งคดีบ่อขยะที่ จ.สมุทรปราการ คดีเรือน้ำมันรั่ว เห็นได้ว่า ความเสียหายแก่ชีวิตร่างกายสุขอนามัย ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะวันนี้ แต่มันอาจจะสะสมไปนานถึงสิบปี กว่าจะปรากฏอาการ ประกอบกับสารเคมีที่แพร่ออกไปกระทบ 15 กม. มันส่งผลร้ายแก่ประชากรในวงกว้าง
...
ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นสภาทนายความจะนำมาแก้ไข ทั้งการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ในการฟ้องร้องทางอาญาทางแพ่งทางปกครอง เพื่อเอาคนผิดมารับโทษและชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งพร้อมดอกเบี้ย โดยในเวลา 10.00 น.วันที่ 24 ก.ย. สภาทนายจะส่งนายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ กับคณะทำงานรวมสิบคนไปร่วมกับประธานสภาทนาย จ.นครปฐม ตั้งโต๊ะรับให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและว่าต่างคดีให้อย่างเต็มที่ไม่ทอดทิ้ง กับในส่วนของการตรวจสอบการอนุญาต การตรวจตรา สภาพโรงงานว่าบกพร่อง รัดกุมหรือไม่ และสภาทนายจะติดตามความคืบหน้าของหน่วยงานของรัฐ ในเรื่องนี้อย่างไม่ปล่อย รวมทั้งดูเรื่องการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายสิ่งแวดล้อม และโรงงานอุตสาหกรรม ที่อาจล้าสมัยให้มีประสิทธิภาพ.