ฉก.ลาดหญ้า นำกำลังลาดตระเวน พบแรงงานพม่า 34 คน ลักลอบข้ามชายแดนบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี จึงเข้าจับกุม นำตัวมาซักถาม สารภาพเสียค่าหัวรายละ 1.5-3 หมื่นบาท จึงนำตรวจอุณหภูมิก่อนส่งตัวดำเนินคดี
จากนโยบาย พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9/ผบ.กกล.สุรสีห์ ให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในห้วงวันที่ 20-21 ก.ย. 65
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 65 กกล.สุรสีห์ โดย ฉก.ลาดหญ้า/ร.9 ได้รับการเเจ้งข้อมูลจาก ประชาชนในพื้นที่ เเละ ชป.ขว.กกล.สุรสีห์ ว่าจะมีขบวนการนำพาผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงได้ทำการสนธิกำลัง ลาดตระเวน-ซุ่มตรวจ จุดตรวจ ร่วมกับ ชป.ขว.กกล.สุรสีห์, สถานีตำรวจภูธร, ฝ่ายปกครอง เเละ สาธารณสุข ทำจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่รับผิดชอบจังหวัดกาญจนบุรี
...
โดย ฉก.ลาดหญ้า/ร.9 พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทำการจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย พื้นที่ บ.พุน้ำร้อน ม.12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จำนวน 34 คน เป็นชาย 19 คน เป็นหญิง 15 คน
การซักถามได้ข้อมูลว่าเสียค่าใช้จ่ายรายละ 15,000-30,000 บาท/คน เดินทางมาจาก เมาะลำไย, ย่างกุ้ง, พะโค, ยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยจะเข้าไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร, จ.ระยอง, จ.กาญจนบุรี และ กรุงเทพฯ หน่วยได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิขั้นต้น ไม่พบผู้มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส นำตัวส่งสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.