แม่ของผู้ต้องหาปืนลั่นใส่น้องโชคตาย เผยเครียด เสียใจไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ หลังศาลให้ประกันตัวลูก แต่ต้องกลับไปเรียนและต้องรายงานตัว 4 ครั้ง/เดือน แต่ลูกไม่อยากเรียนที่เดิม แต่ทำไม่ได้
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 16 ก.ย.65 ที่วัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี น.ส.พร (นามสมมติ) อายุ 40 ปี และนายเดช (นามสมมติ) อายุ 38 ปี แม่และพ่อเลี้ยงน้องเต่า (นามสมมติ) คนก่อเหตุทำปืนลั่นใส่น้องโชคเพื่อนนักเรียน ม.3 เสียชีวิต ที่ โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ได้เดินทางมาเก็บข้าวของใช้ของน้องเต่า เพื่อกลับไปอยู่ในความดูแลของครอบครัว หลังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ให้ประกันตัวในวงเงิน 10,000 บาท พร้อมตั้งเงื่อนไขต้องอยู่ในความดูแลของครอบครัว และรายงานตัวเดือนละ 1 ครั้ง จำนวน 4 ครั้ง
แม่ของผู้ต้องหา กล่าวว่า ลูกมาอยู่ที่วัดตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบหลังพ่อของเขาตาย โดยมีหลวงตาอุปถัมภ์ดูแลทุกอย่างทั้งเรื่องเรียนและค่าใช้จ่าย เพราะว่าหลวงตาสงสาร ด้านตัวเองก็ดูแลไม่ได้ น้องจะคอยช่วยเหลือหลวงตาโดยออกตามบิณฑบาต ตามปกติแล้วน้องมีปัญหาน้องไม่เคยเล่า หรือบอกอะไรกับแม่ ผลการเรียนน้องปานกลาง ได้เกรดเฉลี่ยประมาณ 2 กว่า เขาเป็นลูกชายคนโตมีน้องอีก 1 คน เมื่อตนมีเวลาตนก็จะเข้ามาดูแลลูกบ้างเป็นบางครั้ง ที่ผ่านมาเวลาน้องเขามีปัญหา ก็ไม่เคยโทรมาหรือบอกอะไรแม่เลย ปกติน้องไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน หลังเกิดเหตุ จนท.ตำรวจได้โทรแจ้งตน โดยบอกให้ตนเดินทางไปที่โรงพักเพราะน้องมีเรื่อง ตนไปที่โรงพักน้องก็ไม่ได้พูดอะไร ตัวแม่ก็รู้ตามที่เป็นข่าว
...
นางสาวพร กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้ถามลูก ตัวเขาก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องเขาก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ น้องเสียใจจนไม่อยากกลับไปเรียนที่เดิม และหวาดกลัวด้วย แต่เจ้าหน้าที่ศาลบอกให้น้องต้องกลับไปเรียนหนังสือที่เดิม และต้องอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ เพราะว่าที่ศาลที่เมตตาให้ประกันตัวเพื่อให้น้องออกมาเรียนหนังสือ วันนี้ก็เลยต้องมาเก็บของให้น้อง กลับไปพักอยู่กับตนที่บ้านเช่าหลังวัด
"หลังประกันตัวตนก็ได้พูดสั่งสอนลูกว่า ต่อไปนี้พ่อแม่จะไปส่งที่โรงเรียนและให้ลูกเป็นเด็กดี อย่าทำเรื่องอะไรแบบนี้อีกซึ่งลูกก็ให้คำสัญญา และตนก็ให้ลูกเลิกคบเพื่อนกลุ่มเก่าๆ 4-5 คนไม่ให้ไปยุ่งกับเขา ให้ลูกทำงาน เหมือนเมื่อก่อนที่เคยทำเป็นเด็กส่งพิซซ่า ซึ่งปกติน้องเขาก็เรียนด้วยทำงานด้วยหารายได้พิเศษ ตอนที่ทราบข่าวตนเองก็ตกใจ แม่ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น คุณแม่เครียดและตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร" แม่ของผู้ต้องหา กล่าว
ส่วน พระลูกวัดของวัดลาดปลาดุก ให้รายละเอียดว่า ที่วัดมีเด็กวัดหลายรุ่น พอโตแล้วพ่อแม่ก็จะมารับกลับ ส่วนใหญ่เด็กวัดก็จะนอนรวมๆ กัน แต่น้องคนนี้นอนกับพระห้องเดียวกัน แล้วก็คอยดูแลก็ซักเสื้อผ้าให้ด้วย หลังเกิดเหตุการณ์นี้ พี่น้องทางพระที่ดูแลก็ไม่พอใจที่มาทำให้พระท่านเดือดร้อน.