นครปฐม-คุณยายวัย 75 ประสบอุบัติเหตุลื่นล้ม ร่างและศีรษะเข้าไปติดกับร่องระบายน้ำนานข้ามวัน สภาพสุดเวทนา เพื่อนบ้านเห็นผิดสังเกต ไม่ได้ยินเสียง 2 วัน ไม่ออกจากบ้าน รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องรีบช่วยเหลือเป็นการด่วน
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 46/12 หมู่ 3 ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้เกิดอุบัติเหตุหญิงชราลื่นล้ม ร่างและศีรษะเข้าไปติดกับร่องระบายน้ำ ไม่สามารถนำออกมาได้ จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยกันนำตัวออกมา
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันใช้เครื่องสกัดปูนทำการช่วยเหลือ ซึ่งร่างของหญิงสูงวัยอยู่ในสภาพนอนขาโผล่ออกมา แต่ลำตัวและศีรษะติดอยู่ในร่องระบายน้ำพอดี เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกันอย่างทุลักทุเล ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำออกมาได้ พบว่าร่างกายอ่อนเพลียและอยู่ในสภาพอิดโรย ศีรษะบวม
...
จากการสอบถาม นางสาวจุฑารัตน์ บัณฑิตภูวนนท์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 3 ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เจ้าของร้านขายของชำ เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ได้เปิดเผยว่า ปกติแล้วที่บ้านหลังดังกล่าวอยู่กัน 2 คนพี่น้อง คือ 1. นางจิตติมา แซ่โค้ว พี่สาว อายุ 78 ปี และ 2. นางสาวเสาวนีย์ แซ่โค้ว อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นคนที่ล้มศีรษะติดร่องระบายน้ำ
ซึ่งในทุกๆ วันทั้งสองคนจะพูดคุยกับเสียงดัง เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันจะได้ยินกันเป็นปกติ แต่ที่ผ่านมา 2 วันนี้ไม่ได้ออกจากบ้านเลย เพราะปกติแล้ว นางสาวเสาวนีย์ จะต้องออกไปตลาดทุกเช้า เพื่อกลับมาทำกับข้าวให้พี่สาวรับประทาน แต่เป็นที่น่าแปลกใจ มีประตูนอกเปิดอ้าออกแต่ก็ไม่ได้ออกมา ตนได้แต่ไปยืนมองหน้าบ้าน มีแต่ นางสาวจิตติมา ที่กวักมือเรียก แต่ไม่ได้พูดจาอีก เมื่อเข้าไปดูดีๆ คิดว่ามีอะไรผิดปกติ เพราะรู้สึกแปลกใจจึงประสานผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.บางกระเบา เข้ามาช่วยเหลือดูแล แต่เมื่อมาถึงเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตู ผู้ใหญ่บ้านจึงต้องประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี มาช่วยกัน เพื่อที่จะเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่า นางสาวเสาวนีย์ ได้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม แล้วศีรษะไปติดอยู่ที่ร่องน้ำ จนศีรษะบวม และไม่มีแรงที่จะพูดจา
ทางด้าน นายชัยยาวัฒน์ เกิดสมยา อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บางกระเบา เปิดเผยว่า วานนี้เพื่อนบ้านได้โทร.มาบอกว่าที่บ้านหลังเกิดเหตุนั้นไม่มีใครออกมา 2 วันแล้ว คิดว่าน่าจะมีอะไรผิดปกติแน่นอน เพราะในบ้านมี นางสาวจิตติมา ซึ่งเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ และ นางสาวเสาวนีย์ เป็นน้องสาว ซึ่งเป็นคนที่ลื่นล้ม อาศัยอยู่กัน 2 คน เมื่อผู้ใหญ่บ้านไปถึงก็ตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีใครออกมาเปิดประตู โดย นางสาวจิตติมา ได้แต่นั่งมอง ผู้ใหญ่บ้านจึงได้แจ้งตำรวจเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากประตูถูกล็อกจากภายใน แต่เมื่อเข้าไปถึงได้สอบถาม นางสาวจิตติมา ก็ยังไม่ตอบ เมื่อเดินเข้าไปอีกนิดนึงจึงพบว่า นางสาวเสาวนีย์ นอนล้มอยู่ในสภาพที่ศีรษะและลำตัวติดอยู่ที่ร่องน้ำ
แวบแรกที่เห็นนึกว่าเสียชีวิตแล้ว แต่เมื่อสัมผัสมือปรากฏว่าตอบรับและได้กระดิกนิ้ว ทำให้หน่วยกู้ชีพและเจ้าหน้าที่รีบทำการช่วยเหลือ แต่ในขณะที่ช่วยเหลือนั้นก็ไม่มีใครกล้าดึงร่างออกมา เพราะศีรษะบวมติดอัดอยู่ โดยได้ประสานนำเครื่องสกัดปูน สว่าน เพื่อทำการเปิดเจาะร่องน้ำ ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง จึงสามารถทำการช่วยเหลือออกมาได้
นายชัยวัฒน์ เผยต่ออีกว่า สำหรับเรื่องนี้ทั้ง 2 ไม่ได้อยู่กันตามลำพัง แต่ นางสาวจิตติมา ป่วยอัลไซเมอร์ มีลูก 2 คน และลูกหลานดูแลเป็นอย่างดี แต่ทำงานอยู่ที่ กทม. เป็นไปได้ว่าเวลาที่เกิดอุบัติเหตุอาจจะคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อย ประกอบกับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ก็ไม่สามารถตอบอะไรได้มาก เรื่องนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ ควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง หากมีผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุอยู่ ขอให้ดูแลกันอย่างใกล้ชิด แต่ที่บ้านหลังนี้ก็มีลูกๆ เข้าออกตลอดเวลา แต่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำให้คลาดเคลื่อนเวลากันเล็กน้อย จังหวะนั้นเมื่อผู้ใหญ่บ้านได้ไปดูโทรศัพท์ของ น.ส.เสาวนีย์ พบว่าแบตหมดพอดี และไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อนำไปชาร์จก็ได้ทราบถึงเบอร์ติดต่อของหลานๆ จึงได้โทร.แจ้งว่าเข้ามาช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว.
...
ขอบคุณภาพ มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์และเจ้าหน้าที่ที่เข้าช่วยเหลือ