ฝนถล่มหนักน้ำท่วมสนามบินภูเก็ตและ คอนโดที่อยู่ใกล้ๆ รถยนต์และ จยย.เสียหาย กว่า 60 คัน ส่วนเมืองคอนเจอน้ำป่าซัดดินโคลนซากท่อนไม้กิ่งไม้เข้าบ้านกลางดึก ชาวบ้านขนของหนีไม่ทันเสียหายย่อยยับ ต้องอพยพไปนอนบ้านญาติ ส่วนชาวนายโสธรลอยคอเกี่ยวข้าว ที่ยังไม่สุกเต็มที่ หนีน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร อุบลฯใกล้วิกฤติแม่น้ำมูลจ่อล้นตลิ่ง เจ้าหน้าที่ย้ายคนชราไปอยู่ในที่พักพิงชั่วคราว ด้าน “บิ๊กตู่” นำทีมติดตามสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาดูแผนกันน้ำท่วมอยุธยา กำชับกำลังพลป้องเกาะเมือง
หลายจังหวัดยังเผชิญกับอุทกภัย โดยเมื่อ วันที่ 2 ก.ย.เกิดฝนตกในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ติดต่อกันนานหลายชั่วโมง โดยเฉพาะ อ.ถลาง ตกหนักตั้งแต่บ่ายวันที่ 1 ก.ย.ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 2 ก.ย. ทำให้น้ำระบายไม่ทันไหลท่วมรถยนต์ที่จอดอยู่ใต้คอนโด มิเนียมใกล้สนามบินนานาชาติภูเก็ตและรถยนต์ที่จอดอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จมน้ำเสียหายไม่ต่ำกว่า 40 คัน และรถจักรยานยนต์ไม่ต่ำกว่า 20 คัน เนื่องจากเจ้าของไม่สามารถย้ายรถออกมาได้ทัน หลังฝนหยุดตก นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและช่วยเหลือต่อไป

...
นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศ ยานภูเก็ต เปิดเผยว่า เกิดฝนตกหนักตั้งแต่เวลา 04.00-07.00 น. ปริมาณของน้ำฝนมากถึง 240 มิลลิเมตร ทำให้น้ำท่วมสนามบิน แต่เป็นส่วนลานจอดเครื่องบินส่วนตัวหรือไพรเวทเจ็ตของบริษัทเอกชนบริเวณทางทิศเหนือของสนามบินน้ำสูงประมาณ 20 ซม. นอกจากนี้น้ำยังไหลเข้าท่วมขังพื้นที่อาคารบางส่วน รวมถึงอาคารที่จอดรถของสถานีดับเพลิงของการท่าอากาศยานภูเก็ตน้ำสูง 5 ซม. เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำราว 1.30 ชั่วโมง หลังน้ำลดเที่ยวบินต่างๆสามารถบินขึ้นลงได้ตามปกติ

ที่ จ.นครศรีธรรมราช ช่วงดึกที่ผ่านมาฝนตกหนักน้ำป่าจากเทือกเขาแพรกแดงไหลหลากท่วมพื้นที่ หมู่ 6 บ้านอ่าวมิน ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง ถนนทางเข้าหมู่บ้านและบ้านเรือนประชาชนในที่ลุ่มจมอยู่ใต้น้ำได้รับความเสียหายหลายหลังน้ำสูง 30-50 ซม.ซัดเอาเศษท่อนไม้กิ่งไม้และดินโคลนไหลท่วมบ้านชั้นล่างอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่สามารถขนของหนีน้ำได้ทัน ต้องย้ายไปนอนบ้านญาติ
ที่ จ.ยโสธร แม่น้ำชีไหลท่วมเข้านาข้าวในพื้นที่บ้านคูสองชั้น ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย ชาวนาต้องลงแขกเดินลุยน้ำลอยคอไปเกี่ยวข้าวที่ท่วมสูงเกือบ 2 เมตร แม้ข้าวจะไม่แก่เต็มที่ แต่จำเป็นต้องเกี่ยว เนื่องจากหากทิ้งไว้กลัวน้ำท่วมเสียหายหมด เนื่องจากน้ำยังท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังเกี่ยวข้าวเสร็จต้องขนออกมาตากแดดบนที่สูง เพื่อไล่ความชื้น สำหรับพื้นที่ดังกล่าวมักถูกแม่น้ำชีไหลท่วมเป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้น้ำมาเร็วและมีปริมาณมาก คาดว่าน้ำท่วมกินพื้นที่นาข้าวไม่ต่ำกว่า 500 ไร่

ส่วน จ.อุบลราชธานี แม่น้ำมูลอยู่ในระดับทรงตัวสูง 6.69 เมตร ห่างจากตลิ่งเพียง 31 ซม. บางจุดไหลท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำไปแล้ว 12 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อน 119 ครอบครัว กว่า 450 คน ขณะที่ทหารจากกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลคำน้ำแซบเข้าพูดคุยทำความเข้าใจชาวบ้านบ้านช่างหม้อ ต.คำน้ำแซบ พื้นที่เสี่ยงน้ำริมแม่น้ำมูลและเป็นจุดน้ำท่วมซ้ำซากให้เตรียมอพยพ หลังจังหวัดออกประกาศเตือนช่วง
วันที่ 3-8 ก.ย.จะมีฝนตกหนักและน้ำเหนือไหลมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น 30-50 ซม. เจ้าหน้าที่ได้ย้ายผู้สูงอายุที่อยู่บ้านตามลำพังไปอยู่ในที่พักพิงชั่วคราว

...
ส่วนที่ จ.แพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ ลงพื้นที่ตรวจสอบตลิ่งฝายน้ำล้นแม่น้ำคำมี พื้นที่หมู่ 1 แม่คำมี อ.หนองม่วงไข่ และหมู่ 6 บ้านปง ต.แม่คำมี อ.เมืองแพร่ ที่ถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งช่วงหลังบ้านของนายประยูร ชมภูวัง 63 ปี เลขที่ 178 บ้านปง หมู่ 6 ต.แม่คำมี หายไปเกือบ 1 ไร่ เหลืออีก 5 เมตรก็จะทรุดถึงตัวบ้าน สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักเมื่อหลายวันก่อน แต่จนถึงขณะนี้ไม่มีหน่วยงานไหนมาตรวจสอบแก้ไข เบื้องต้น อบจ.จะนำเครื่องกลหนักมาช่วยจุดน้ำล้นฝายลดกระแสน้ำไม่ให้พุ่งเข้าหาตลิ่ง ส่วนระยะยาวจะประสานของบประมาณทำพนังคอนกรีตป้องกันตลิ่งพังต่อไป

ขณะที่น้ำเหนือไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 1,787 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ปรับการระบายน้ำอัตรา 1,799 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าตลิ่ง 2 เมตร ขณะที่ชาวบ้านหลายชุมชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำพื้นที่ ต.หาดอาษา อ.สรรพยา ออกมาจองพื้นที่สูงริมถนนคันคลองมหาราชเพื่อใช้สร้างเพิงพักชั่วคราว เนื่องจากหวั่นเกรงว่าปีนี้จะเกิดอุทกภัยเหมือนปีที่แล้วที่ถูกน้ำท่วมหนักถึง 2 รอบ
...

เช่นเดียวกับชาวบ้านหมู่ 1 และหมู่ 2 ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ช่วยกันขนของเตรียมรับน้ำเหนือที่ไหลมาลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีแนวเขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี จึงต้องเตรียมรับมือไว้แต่เนิ่นๆ ที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง น้ำในคลองโผงเผง ลำน้ำสาขาแม่น้ำเจ้าพระยา เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนไปแล้ว 151 หลัง ส่วน ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อยได้รับผลกระทบน้ำเอ่อท่วมบ้านได้รับความเดือดร้อน 219 หลัง ขณะที่แม่น้ำเจ้าพระยาไหลท่วมนาข้าวบริเวณทุ่งหลังสวนน้ำ อ.เมืองอ่างทอง ชาวนาต้องเร่งเกี่ยวข้าวทั้งที่รวงข้าวยังไม่แก่จัด ทำให้ขายได้เพียงตันละ 6,000 บาท จากปกติตันละ 8,000 บาท

...
ที่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาดูความคืบหน้าการก่อสร้างบังเกอร์ป้องกันน้ำ ขณะนี้แล้วเสร็จเหลือเพียงการคลุมผ้าใบ และวางแนวกระสอบทรายด้านนอก ล่าสุดระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 20 ซม. ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชั้นนอกของวัด พล.อ.ประยุทธ์ยังเดินทางไปดูการติดตั้งพนังกั้นน้ำหน้าเจดีย์พระศรีสุริโยทัย ฝั่งเกาะเมือง ต.ประตูชัย เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เกาะเมือง สถานที่ตั้งแหล่งเศรษฐกิจ ศูนย์ราชการ และโบราณสถาน เป็นจุดต่ำที่สุดของเกาะเมืองที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักล้อมรอบ กำชับกำลังพลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ที่ จ.ชลบุรี นางสาวนริศรา ทิพยางกูร ปลัดอำเภอศรีราชา ร่วมกับนายศุภโชค มีอำพล รอง ผอ.สำนักงานทางหลวงที่ 14 นำเจ้าหน้าที่ติดตามแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณหน้าตลาดบ่อวิน หมู่ 6 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา และถนน 331 เมื่อ 2 วันก่อน โดยมีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 30 หลัง ขณะนี้น้ำแห้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ทางหลวงจะเร่งวางท่อเพิ่มให้น้ำระบายได้สะดวกในช่วงฝนตกหนัก รวมถึงให้ผู้บริหารตลาดบ่อวินขยายท่อระบายน้ำเพิ่มขึ้น โดยมั่นใจว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างเป็นรูปธรรม

ส่วนที่ จ.ปทุมธานี นายมานิตย์ แด้วพวง นายก เทศมนตรีเทศบาลตำบลเชียงรากใหญ่ อ.สามโคก ร่วมกับเจ้าหน้าที่นำโป๊ะแพลอยน้ำมาสร้างทางเดินเข้าออกให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยนอกคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหมู่ 6-7 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก นายมานิตย์เผยว่า โป๊ะแพดังกล่าวเทศบาล ได้รับงบประมาณ 4 ล้านบาท เพื่อในการสร้างแพ ลอยน้ำที่ทำจากพลาสติกกว้างยาว 1 เมตร เดิมวางอยู่แนวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไว้รองรับนักท่องเที่ยว แต่เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤติน้ำท่วม จึงนำโป๊ะแพ ย้ายมาวางเป็นทางเดินให้ชาวบ้านสัญจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน