จับแล้วมือปืนฆ่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของบ่อปลาที่นครปฐม ถูกคนร้ายยิงด้วยปืน 9 มม. 3 นัด หลักฐานพุ่งที่ไปกิ๊กสาวที่คบหากันมานาน เป็นคนเดียวที่ขี่ จยย.เข้า-ออกที่เกิดเหตุ ตำรวจตามไปจับได้ที่กาญจนบุรี อ้างถูกข่มขู่แบล็กเมล์หลังกลับมากุ๊กกิ๊กกันใหม่ แต่กลับชิงทรัพย์ผู้ตายปลดสร้อยทองหนัก 5 บาท กับพระหลวงปู่หลิวเลี่ยมทองไปด้วย 2 องค์
วันที่ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ภายหลังจากเวลา 14.00 น.วันที่ 8 ส.ค. ที่หน้า สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ชุดสืบสวน ภาค 7 สืบสวน ภ.จว.นครปฐม และสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลนครปฐม คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายเล็ก ปิ่นโรจน์ อายุ 55 ปี เสี่ยบ่อปลา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เสียชีวิตที่บริเวณบ่อเลี้ยงปลาด้านหลังหมู่บ้านแกรนด์มัณฑิกา หมู่ 5 ต.นครปฐม อ.เมือง นครปฐม เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 65 เวลาประมาณ 03.30 น. พร้อมของกลางอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม.ยี่ห้อสไตรเกอร์ มีทะเบียน รถจยย.ฮอนด้าคลิก สี ดำแดง ทะเบียน ฬตน-612 กทม.รถที่ขี่ไปก่อเหตุ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น พระเลี่ยมทองหลวงปู่หลิว 2 องค์ เป็นของผู้ตายที่คล้องคออยู่หลังจากยิงเสร็จ คนร้ายได้ถอดเอาไปด้วย
ผู้ต้องหาได้แก่ น.ส.ณัฐกานต์ พูลสวัสดิ์ อายุ 45 ปี อยู่หมู่ 10 ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม หลังก่อเหตุหลบหนีไปอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ที่ร้านอาหารตรงข้าม กองพลทหารราบที่ 9 ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี นำตัวมาสอบสวน โดย น.ส.ณัฐกานต์ ให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอาของกลางรถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุจอดอยู่ที่บ้านสามีที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
...
ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของสามีที่ขโมยมาใช้ซ้อมยิงก่อนนำมาก่อเหตุ โดยสามีเก็บไว้ที่บ้านแล้วไปทำงาน สร้อยคอทองคำไปฝากไว้กับญาติข้างบ้านสามี ซึ่งตำรวจนำของกลางกลับมาประกอบคดีได้ครบ พร้อมตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 เผยถึงการก่อเหตุครั้งนี้ว่าจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงนายเล็ก ปิ่นแก้ว ด้วยตนเอง โดยใช้ปืนของสามีคนปัจจุบันยิง แล้วยังถอดทรัพย์สินที่ติดตัวของผู้ตายไปก่อนจะหลบหนี จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ลงมาควบคุมคดีเพราะถือเป็นคดีที่ประชาชนใน จ.นครปฐม ให้ความสนใจ โดยระดมชุดสืบสวน ภาค 7 สืบสวน จ.นครปฐม และสืบสวนเมืองนครปฐม ร่วมกันวางแผนจับกุมให้ได้โดยเร็ว จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดใกล้บ่อปลาที่เกิดเหตุจนพบว่ามีหญิงขี่รถ จยย.ออกมาจากบ่อปลาเพียงคนเดียวในช่วงเวลา 12.00 น.ซึ่งบ่อปลาดังกล่าวมีเนื้อที่ถึง 7 ไร่เศษ และมีรั้วโดยรอบ เข้าออกได้เพียงทางเดียว ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีคนเข้าออกนอกจากผู้ตายซึ่งมาดูและให้อาหารปลา
สาเหตุเท่าที่ได้รับรายงานทราบว่าผู้ตายกับ น.ส.ณัฐกานต์ มือปืนนั้น ในอดีตเป็นคู่กิ๊ก คบหากันมายาวนานกว่า 10 ปี และเลิกรากันไป โดย น.ส.ณัฐกานต์ หลังจากเลิกกับผู้ตายก็ไปมีสามีใหม่หลายคน ซึ่งคนล่าสุดเป็นคนกาญจนบุรี แต่ น.ส.ณัฐกานต์ ก็ยังเปิดร้านขายไส้กรอกอีสาน อยู่ที่หน้าสถานีรถไฟสามกระบือเผือก อ.เมืองนครปฐม และรับซื้อน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาการค้าขายไม่ดีเลยหันกลับมาหาผู้ตายอีกครั้ง เพื่อให้ผู้ตายช่วยเหลือนำน้ำมันที่รับซื้อมาไปขายให้ จึงได้ใกล้ชิดกันอีกครั้ง มีการนัดแนะให้มาพบกันและมีความสัมพันธ์กันหลายครั้งที่ในพื้นที่บ่อปลา แต่เนื่องจากเห็นว่าผู้ตายมักจะชอบใส่สร้อยทองมาอวดเส้นใหญ่ ประกอบกับผู้ตายเคยขู่ว่าจะนำเรื่องที่คบกันไปกระจายข่าวให้ชาวบ้านรู้ และอาจจะกลัวสามีรู้ จึงวางแผนนัดแนะกันที่บ่อปลาของผู้ตาย
"ในวันเกิดเหตุในช่วงเที่ยงทั้งสองคนก็มาตามนัดที่บ่อปลา โดย น.ส.ณัฐกานต์ นำอาวุธปืนของสามีพกติดตัวมาด้วย ซึ่ง น.ส.ณัฐกานต์ ได้ขอเงินจำนวนหนึ่งจากผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่มีให้ เกิดการทะเลาะกัน น.ส.ณัฐกานต์ จึงชักอาวุธปืนที่พกมายิงใส่ 1 นัด และยิงซ้ำอีก 1 นัด เมื่อผู้ตายล้มลงแล้วจึงเอาปืนจ่อยิงที่ต้นคอด้านหลังอีก 1 นัด เพื่อให้แน่ใจว่าตาย เพราะจากการพิสูจน์พบว่ามีเขม่าดินปืนติดอยู่ตรงจุดต้นคอ จากนั้นได้ปลดเอาสร้อยคอและพระเลี่ยมทองก่อนที่จะขี่รถ จยย.หลบหนีไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและสอบญาติผู้ตาย ก็พบว่า น.ส.ณัฐกานต์ ขับขี่รถ ออกมาจากที่เกิดเหตุ ประกอบกับพยานยืนยันว่า น.ส.ณัฐกานต์ อดีตเคยเป็นกิ๊กกับผู้ตายแต่เลิกรากันไปแล้ว และไม่รู้ว่ากลับมาคบกันอีก"
ผบช.ภ.7 เผยอีกว่า แม้ผู้ต้องหารับสารภาพ แต่ยังต้องสอบให้ละเอียดอีกครั้งถึงสาเหตุที่แท้จริง เพราะยังไม่เชื่อในคำรับสารภาพ อาจจะมีอย่างอื่นที่เป็นสาเหตุใหญ่ได้ และได้สั่งให้ ผบก.ภ.จว.นครปฐม สอบสวนผู้เกี่ยวข้องทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสามีใหม่ของ น.ส.ณัฐกานต์ มือปืนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และมีคนพาหลบหนีหรือไม่ อาวุธปืนถึงแม้จะมีทะเบียนและเป็นของสามีใหม่ ที่ซื้อมามีทะเบียน ให้นำตรวจสอบด้วยว่าเคยก่อเหตุที่ไหนมาบ้าง หากมีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้ดำเนินคดีทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทางผู้ต้องหา ไม่ขอไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากกลัวถูกรุมประชาทัณฑ์ หลังควบคุมตัวครบ 24 ชั่วโมง ตำรวจจึงได้อำนาจศาลฝากขัง และนำส่งเรือนจำฯ เพื่อฝากขังระหว่างดำเนินคดี