ชายวัย 72 ปีชาวนาสระบุรี เคยช่วยหลาน 2 พี่น้องรอดตายจากฟ้าผ่ามาแล้ว แต่ตัวเองกลับมาโดนฟ้าผ่าตายอยู่คนเดียวใต้ต้นสะเดากลางทุ่งนา ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครช่วย คาดวิ่งหลบฝนเคราะห์ร้ายฟ้าผ่าลงมาพอดี 

เวลา 17.20 น.วันที่ 28 ก.ค. ร.ต.ท.สัณห์เพชร แตงพรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามี คนโดนฟ้าผ่าเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา ที่หมู่ 7 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี จึงได้รุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย แพทย์เวรรพ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจุดหนองแซง

พบผู้เสียชีวิตคือ นายประภาส ปิ่นทอง อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.6 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี นอนหงายอยู่ใต้ต้นสะเดา สวมเสื้อแขนสั้นลายสก็อต กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าแตะสีดำ มีหมวกงอบ ตกอยู่ 1 ใบ สภาพศพ เส้นผมข้างขวา ต้นคอด้านขวาเป็นรอยไหม้ และเสื้อที่สวมมีรอยขาด ส่วนต้นสะเดา เจ้าหน้าที่พบรอยคล้ายถูกสายฟ้าผ่า จึงได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

นายบุญมี เพ็งศรี เล่าว่า แฟนตนได้ออกมาทำนาใกล้ที่นาผู้ตาย และมาพบนายประภาส นอนอยู่ใต้ต้นสะเดาจึงบอกตนไปดู ซึ่งก่อนจะมาพบศพได้มีฝนตกและฟ้าผ่าลงมาเสียงดังมาก 2 ครั้งช้อน แต่ไม่คิดว่ามีคนถูกฟ้าผ่าตาย

ขณะที่นางทองใบ ปิ่นทอง ภรรยาผู้ตาย เผยว่า นายประภาส ได้ขี่รถ จยย.ออกจากบ้านเพื่อมาดูข้าวในนาซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ช่วงนี้มักจะมีนกลงมากินต้นข้าว ผู้ตายต้องคอยมาไล่ และคอยสูบน้ำออก จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุมีฝนตกฟ้าร้อง ผู้ตายจึงอาจมาหลบฝนใต้ต้นสะเดาจนเกิดฟ้าผ่าลงมาจนเสียชีวิต

สำหรับนายประภาส ปิ่นทอง อายุ 72 ปี ผู้สื่อข่าวจำได้ดี เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 เมษายน 65 ที่ผ่านมา นายประภาส เคยเป็นข่าวมาครั้งหนึ่งจากการช่วยเหลือหลานสาวและหลานชาย 2 คน หลังเห็นกับตาว่าถูกฟ้าผ่าจนล้มหมดสติที่บริเวณกระต๊อบริมทุ่งนา โดยได้อุ้มร่างหลานขึ้นมา แล้วเอาเหล้ามาพ่นหลานชายจนฟื้นคืนหลังถูกฟ้าผ่าสลบ แต่มาวันนี้คาดไม่ถึงว่า นายประภาสต้องมาโดนฟ้าผ่าเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา ไม่มีใครช่วยได้

...