พื้นที่ อ.เสนา ผักไห่ พื้นที่ลุ่มต่ำสุดท้องกระทะภาคกลาง น้ำเข้าใต้ถุนบ้านแล้วหลังถูกน้ำจากแม่น้ำน้อย ไหลเข้าท่วมหลังกรมชลประทาน ต้องเพิ่มการระบายน้ำ เพราะฝนที่ตกหนักจากภาคเหนือและภาคกลางตอนบน
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2565 นายไฟรัตน์ เพรชยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า พื้นที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอ ยังมีปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1 เมตร ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำ 850 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจากปริมาณน้ำดังกล่าวจะใช้เวลา 35 ชั่วโมง มวลน้ำจะไหลมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้แจ้งเตือนไปยังอำเภอในพื้นที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอ ได้แก่ ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล ซึ่งบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำให้ยกของขึ้นที่สูงแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือมวลน้ำที่จะมาถึง ซึ่งมวลน้ำทุก 100 ลบ.ม. จะส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้น 25 เซนติเมตร ซึ่งผลกระทบดังกล่าวจะส่งผลทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมใต้ถุนบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำ
...
นายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากกรณีฝนตกหนักทางตอนบนและภาคกลาง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น จึงคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ประมาณ คือ 850-1,000 ลบ.ม./วินาที ภายในไม่เกินสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เบื้องต้น ระบายน้ำเข้าพื้นที่รับน้ำ ฝั่งตะวันตก-ตะวันออก เหนือเขื่อนเจ้าพระยา และการระบายน้ำเพิ่มเติม ที่ 998 ลบ.ม./วินาที ขึ้นไป จะทำให้พื้นที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง / ต.สีกุก อ.บางบาล - ต.หัวเวียง อ.เสนา - ต.กุฎี ต.ลาดชิด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและถูกน้ำท่วมก่อนพื้นที่อื่น จะมีน้ำท่วมประมาณ 60-80 ซม. ซึ่งจะพยายามระบายน้ำท้ายเขื่อนไม่ให้เกิน 1,000 ลบ.ม./วินาที ในระยะนี้
หลังจากกลางเดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ได้รับรายงานว่า จะมีพายุเข้าไทย เบื้องต้น 2 ลูก ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 12 จะบริหารน้ำเข้า 2 ฝั่ง ตะวันออก และตะวันตก เพิ่มขึ้น และขอให้ฟังการแจ้งเตือนการระบายน้ำจากกรมชลประทาน และสำนักงานชลประทานที่ 12 เป็นระยะ.