ปลัดมหาดไทยเป็นประธานเปิดพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จ.อ่างทอง พร้อมกับเตรียมขยายผลเปิดในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 65 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า เป็นประธานเปิดพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการ จ.อ่างทอง นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการ จ.อุทัยธานี นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี นายกเหล่ากาชาด จ.อ่างทอง และประธานแม่บ้านมหาดไทย จ.อ่างทอง พร้อมคณะเข้าร่วม ที่จวนผู้ว่าราชการ จ.อ่างทอง (หลังเก่า) รู้สึกดีใจได้เห็นสถานที่แห่งความจงรักภักดีอยู่ใจกลางเมืองอ่างทอง ซึ่งเกิดจากใจและความมุ่งมั่นของผู้ว่าราชการ จ.อ่างทอง ทั้งอดีตและปัจจุบัน 3 คน คือ นายเรวัต ประสงค์ นายขจรเกียรติและนายวีระศักดิ์ช่วยสานต่อสิ่งที่มีคุณค่าและคุณประโยชน์ทางประวัติศาสตร์อันสำคัญยิ่งของประเทศ ด้วยการปรับปรุง สร้างสรรค์ จนกระทั่งกลายเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งความจงรักภักดีที่สวยงาม เพื่อรับใช้พี่น้องคนไทยและชาวอ่างทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติผ่านพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระมหากษัตริย์ไทย ทุกพระองค์ล้วนแต่มีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวอ่างทองและพสกนิกรไทยอย่างหาที่สุดมิได้
ทั้งนี้ ทางประวัติศาสตร์การปกครองไทย จ.อ่างทอง เป็นหนึ่งในไม่กี่จังหวัดที่ได้รับพระราชทานพระราชศัสตราวุธ และมีหลักฐานภาพถ่ายแสดงถึงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์หลายรัชกาลเริ่มตั้งแต่ล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรและทรงงานต่างๆ มากมาย รวมถึงพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในหลายโอกาส
...
ปลัดมหาดไทย กล่าวต่อว่า การปรับปรุงจวนผู้ว่าราชการ จ.อ่างทอง (หลังเก่า) เป็นพิพิธภัณฑ์ภาพ ถ่ายพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ นับเป็นจังหวัดแรกๆ ที่มีความคิดริเริ่มสืบสาน รักษา ต่อยอด
และขยายผลองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์สถาบันหลักของชาติ ซึ่งจะได้ขยายผลแนวความคิดนี้ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพราะทุกจังหวัดยังมีอาคารสำคัญสามารถปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่าและสำคัญยิ่งเช่นนี้ ทุกจังหวัดต่างได้เป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีสำคัญที่สุดของการทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี ควรค่าแห่งการบันทึก ถ่ายทอด ส่งต่อองค์ความรู้ไปยังประชาชนและเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในรากเหง้าความเป็นไทย สร้างความเป็นปึกแผ่น ความรัก ความหวงแหนในความเป็นชาติ และความเป็นคนไทยร่วมกัน เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ คือ ศูนย์รวมให้เกิดความรู้รักความสามัคคีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่รับใช้ประชาชน จะได้นำผลงานจากการศึกษาจัดแสดงด้วย
สำหรับในนามกระทรวงมหาดไทยขอขอบคุณ จ.อ่างทอง ที่ช่วยทำให้ประชาชน ทั้งชาวอ่างทอง พี่น้องคนไทยและนักท่องเที่ยว จะได้มีโอกาสรับรู้ถึงความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอันเป็นสิริมงคลกับชีวิตอย่างยิ่งและประการสำคัญที่สุด คือ จ.อ่างทอง มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ 1 ใน 5 สายของประเทศ หรือ เบญจสุทธคงคา เพื่อนำไปปลุกเสกน้ำสรงพระมุรธาภิเษก หัวใจของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมแรกเริ่ม เพราะ จ.อ่างทอง เป็นจังหวัดที่อยู่ใต้ร่มพระบารมีของสถาบันพระมหากษัตริย์ มีสถาบันศาสนา คือ พระพุทธศาสนา เป็นที่ค้ำจุนจิตใจและคนอ่างทองมีประวัติศาสตร์การปกป้องรักษาเอกราชอธิปไตยของชาติมาตั้งแต่บรรพชน ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งที่ดีงามและขยายผลสร้างการรับรู้ถ่ายทอดสู่ลูกหลานเพื่อให้คงอยู่กับ จ.อ่างทอง ยั่งยืนตลอดไป.