หนุ่มเหน็บบ้องกัญชาควบมอเตอร์ไซค์ซิ่งแหกด่านตำรวจ สายตรวจ จยย.ตามไล่ล่า ตัดสินใจเลี้ยวกลับรถบิดหนีย้อนศรชนประสานงารถ จยย.สองสาวร้านมินิแม็คโครที่เพิ่งเลิกงานดับอนาถ 1 ศพ อีกคนสาหัส ส่วนหนุ่มคู่กรณีอาการโคม่า ขณะที่การปลดล็อกกัญชาเสรียังป่วน กทม.ห้ามขายกัญชา กัญชง อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมในที่สาธารณะ จ่อเอาผิด พ.ร.บ.ความสะอาดฯ ด้านรัฐบาลเตือนคนไทยห้ามนำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบเข้าประเทศอื่นเพราะยังมีโทษความผิดชัดเจน
หนุ่มพกบ้องกัญชาซิ่งมอเตอร์ไซค์แหกด่านตำรวจหนีย้อนศรชนประสานงารถ จยย.สาวพนักงานร้านมินิแม็คโครตายเจ็บ ส่วนตัวเองอาการโคม่า เปิดเผยเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 3 ก.ค. ร.ต.ท.เพชรภูมิ เจี๊ยบนา รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งรถ จยย.ชนกันมีผู้บาดเจ็บหลายคนเหตุเกิดบริเวณถนนสุขุมวิท หน้าตลาดไมอามี่ ต.บางปูใหม่ ไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพ รพ.ศิครินทร์ หน่วยกู้ชีพ รพ.สมุทรปราการ และกู้ภัยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีชมพู-ดำ ทะเบียน 2กท 1281 กรุงเทพมหานคร พังเสียหายเกือบทั้งคัน ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิงสาว 2 คน ทราบชื่อ น.ส.อพรรณญา แซ่เอี๋ยว อายุ 29 ปี และ น.ส.สุภัสสร จันบุศย์ อายุ 27 ปี ทั้งสองเป็นพนักงานร้านมินิแม็คโคร ตลาดไมอามี่ จึงนำส่ง รพ.ศิครินทร์ แต่ น.ส.อพรรณญาอาการสาหัสเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังเสียหายเช่นเดียวกัน มีนายศราวุธ ตรงศูนย์ อายุ 30 ปี คนขี่บาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ยังพบบ้องกัญชาไม้ไผ่ตกอยู่ 1 อัน
นายพิทักษ์ชัย อ่อนโต ผู้ช่วยผู้จัดการร้านมินิแม็คโครใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุน.ส.อพรรณญา กับ น.ส.สุภัสสรเพิ่งเลิกงาน ก่อนขี่รถจยย.ซ้อนท้ายออกจากตลาดไมอามี่ จังหวะเลี้ยวออกถนนสุขุมวิทเพียงเล็กน้อย จู่ๆมีรถ จยย.ชายคนดังกล่าวขี่ย้อนศรมาด้วยความเร็วพุ่งชนประสานงากันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างกระเด็นตกรถไปคนละทิศละทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู กล่าวว่า เบื้องต้นสั่งให้ตำรวจสอบปากคำนายศราวุธ แต่ไม่สามารถให้การได้ เนื่องจากอาการยังหนัก อย่างไรก็ตาม จากการประสานงานตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ท้องที่เขตรอยต่อ สภ.บางปู ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายศราวุธขี่รถ จยย.เหน็บบ้องกัญชาไว้ที่เอวด้านหลังผ่านด่านตรวจห่างจากจุดเกิดเหตุ 1 กม. คาดว่าอาจเกิดความกลัวตัดสินใจแหกด่าน ถูกสายตรวจรถ จยย.ไล่ติดตาม ก่อนเลี้ยวกลับรถแล้วขี่ย้อนศรหลบหนีเป็นจังหวะที่ผู้ตายและบาดเจ็บขี่รถออกมาจากตลาดพอดีเกิดชนประสานงากันเต็มๆ ส่วนจะมีการเสพกัญชาด้วยหรือไม่ต้องรอสอบปากคำคนเจ็บเสียก่อน
...
ส่วนกรณีการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดและกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมถึงผลกระทบจากโทษของกัญชา โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน วันเดียวกัน นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงผลกระทบเรื่องกัญชาเสรี ภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหาร กทม.ว่า กำชับให้ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติให้ถูกกฎหมาย ส่วน กทม. จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 เป็นหลัก กรณีในที่สาธารณะ ผู้ค้าขายหาบเร่แผงลอยจะต้องลงทะเบียนกับสำนักงานเขต และต้องขายตามประเภทที่ขึ้นทะเบียนไว้ ไม่สามารถเปลี่ยนประเภทสินค้าได้ หากจะขายอย่างอื่นต้องไปขออนุญาตกับคณะกรรมการของเขตก่อน
“แม้ว่าปัจจุบันพบว่ามีการขายกัญชา กัญชง หรือใบกระท่อม รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วน ผสมของกัญชา กัญชง หรือใบกระท่อม จึงถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด เพราะไม่สามารถขายได้ในที่สาธารณะ ดังนั้น ได้สั่งการให้เทศกิจทั้ง 50 เขตลงไปตรวจตราดู โดยเน้นย้ำรอบบริเวณโรงเรียนต้องไม่มีขาย เพราะเป็นนโยบายนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ที่ให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียนและเยาวชนไม่ให้เกี่ยวข้อง” นายจักกพันธุ์กล่าว
ทั้งนี้ จากรายงานตัวเลขจำนวนผู้ป่วยจากกัญชา สำนักอนามัยรายงานว่า ตั้งแต่ 9 มิ.ย.-1 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยอายุ 14-20 ปี รวม 27 ราย เป็นกลุ่มอายุ 19-20 ปีมากถึง 14 ราย เป็นช่วงอายุที่กฎหมายกำหนดห้ามจำหน่ายให้ประชาชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ส่วนกรณีผู้ประกอบการถนนข้าวสารเสนอให้ถนนข้าวสารเป็นศูนย์กลางกัญชา (ฮับกัญชา) นั้น แนวโน้มไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากถนนข้าวสารตั้งอยู่ใกล้ทั้งโรงเรียนและวัด เรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ ์อีกทั้งการจะขายกัญชาเสรี หรือฮับกัญชาจะต้องควบคุมปริมาณเพื่อไม่ให้เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะต้องมีจัดหาเครื่องวัดด้วย
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอย้ำเตือนประชาชนคนไทย ห้ามนำเข้ากัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวไปยังต่างประเทศ ยืนยันรัฐบาลปลดล็อกกัญชากัญชงเพื่อประโยชน์ทางด้านการแพทย์และเศรษฐกิจ มีผลบังคับใช้เฉพาะในประเทศ ไทยเท่านั้น ขอให้ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ หรือยา ที่มีส่วนผสมของกัญชา ตลอดจนมีส่วนต่างๆของกัญชา กัญชงในครอบครองที่จะเดินทางไปต่างประเทศตรวจสอบกฎหมายของประเทศปลายทางเกี่ยวกับข้อกำหนดการอนุญาต ข้อห้ามโดยละเอียด หากพกติดตัวไปจะได้รับโทษ ซึ่งแต่ละประเทศกำหนดโทษไว้อย่างชัดเจน