ผบก.ปคม.เผยดำเนินคดีหนุ่มเดนทรชนใช้คลิปหวิวแบล็กเมล์เด็กหญิงวัย 14 ปี ลูกตำรวจจนเครียดผูกคอตาย และคลิปวิปริตบังคับเด็กสาวเปลื้องผ้าคลานสี่ขากินอาหาร รวมทั้ง 3 ข้อหา ส่งฝากขังศาลอนุญาตให้ประกันตัวใช้หลักทรัพย์เป็นเงิน 5 หมื่นบาท มีเงื่อนไขให้ติดกำไล EM ตลอดเวลา ห้ามใช้คอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ ส่วนรอง ผบก.ปคม.ฝากเตือนผู้ปกครองระวังบุตรหลานตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ผู้เสียหายที่พลาดท่า
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชอบเล่นแอปฯ “ติ๊กต่อก” เต้นเซ็กซี่และยั่วยวนมีคนดูจำนวนมากที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายปิยบุตร อุไรงาม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาสร้างบัญชีแอคเคาต์สื่อออนไลน์ปลอม หรือบัญชีอวตาร ล่อลวงเด็กสาวหลายรายให้ถ่ายภาพหวิวแล้วบันทึกเก็บไว้ข่มขู่แบล็กเมล์ให้ยอมทำตามข้อเรียกร้อง ถ้าไม่ทำจะนำไปเผยแพร่ ทำให้เด็กหญิงลูกตำรวจวัย 14 ปี เครียดหนักจนผูกคอฆ่าตัวตายว่า พนักงานสอบสวนดำเนินคดีนายปิยบุตร 3 ข้อหา ได้แก่ 1.ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3.ยุยงส่งเสริมเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน
พล.ต.ต.วิวัฒน์กล่าวว่า วันที่ 25 มิ.ย. พนักงานสอบสวนนำตัวนายปิยบุตรฝากขังต่อศาลอาญาและคัดค้านการประกันตัว ผู้ต้องหายื่นขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวใช้หลักทรัพย์เป็นเงิน 50,000 บาท มีเงื่อนไขให้ติดกำไล EM ตลอดเวลา ห้ามใช้คอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ ห้ามติดต่อกับผู้เสียหายในทุกกรณี และให้ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักเพื่อหาพยานหลักฐานหากมีข้อสงสัยได้ตลอดเวลา หากผู้ต้องหากระทำการผิดเงื่อนไขการประกันตัว ศาลจะเพิกถอนการประกันตัวทันที ส่วนการตรวจสอบคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาอย่างละเอียด พบข้อมูลหญิงสาวตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนมาก ขณะนี้สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลผู้เสียหายได้แล้ว 10 ราย และอีก 30 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบคลิปหญิงสาวที่ถูกบังคับอีก 2 คลิป หนึ่งในนั้นเป็นผู้เสียหายพยายามฆ่าตัวตายจากเหตุการณ์ที่ถูกบังคับให้ถ่ายคลิปดังกล่าว
...
ผบก.ปคม. กล่าวต่อว่า พฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่กระทำต่อเหยื่อมี 3 ขั้นตอน เริ่มจากการหาเหยื่อทางทวิตเตอร์เลือกเหยื่อที่แต่งชุดคอสเพลย์และมีรูปร่างหน้าตาดี จากนั้นจะสร้างความไว้วางใจเข้าไปพูดคุยกับเหยื่อ โน้มน้าวให้หลงเชื่อไว้ใจก่อนขอข้อมูลโซเชียลมีเดียส่วนตัว ผู้ต้องหาจะวิดีโอคอลพูดคุยล่อหลอกให้เหยื่อเปลือยกายแล้วบันทึกคลิปการสนทนาไว้ใช้แบล็กเมล์ภายหลัง บังคับให้เหยื่อทำตามคำสั่งและข่มขู่ ถ้าไม่ทำจะนำคลิปไปเผยแพร่ จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีการส่งคลิปต่อให้บุคคลอื่นในเชิงการค้ายังไม่เข้าข่ายคดีค้ามนุษย์
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. กล่าวว่า ขอฝากถึงผู้ปกครองให้สอดส่องดูแลการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของบุตรหลาน เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีเด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมจำนวนมากทั้งชายหญิงและมีอัตราส่วนเป็นผู้ชายเพิ่มมากขึ้น ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ชอบใช้แอปพลิเคชันติ๊กต่อก โดยเฉพาะกลุ่มเต้นเซ็กซี่และยั่วยวนมีคนดูจำนวนมาก มักมีคนร้ายแฝงตัวอยู่ ดังนั้นการพูดคุยกับคนแปลกหน้าผู้ปกครองต้องหมั่นสังเกตดูบุตรหลานอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเรื่องใช้เงินด้วยเพราะส่วนใหญ่กลุ่มคนร้ายมักใช้เงินเป็นเหยื่อล่อให้เด็กและเยาวชนหลงผิด