กลุ่มผู้เสียหายร้องทนายรัชพล หลังร้านบุฟเฟต์แซลมอนชื่อดังปิดปรับปรุงร้านอย่างไม่มีกำหนด ซื้อ Voucher หวั่นโดนเท

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2565 ที่สำนักงานทนายความ รัชพล ศิริสาคร ซอยประชาราษฎร์ 5 ถนนประชาราษฎร์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ได้มีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน ที่เป็นลูกค้าซื้อคูปอง Voucher ของร้านบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ที่มีจุดขายคือบุฟเฟต์แซลมอน นำหลักฐานการแจ้งความเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรัชพล หลังจากร้านบุฟเฟต์ดังกล่าวประกาศปิดปรับปรุงร้านไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าแก้ไขระบบเซิร์ฟเวอร์ อีกทั้งเพจเฟซบุ๊กของร้านยังได้ปิดไปแล้ว ทำให้ลูกค้าที่ซื้อคูปอง Voucher ล่วงหน้าในราคาใบละ 199 บาท กังวลใจว่าจะถูกเท

โดยเรื่องนี้กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ หลังจากร้านดังกล่าว ซึ่งมีอยู่ 27 สาขาในห้างดังต่างๆ นั้นได้ปิดปรับปรุงไม่มีกำหนด อีกทั้งร้านยังได้มีการเก็บข้าวของบางส่วนและไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าจะซ้ำรอย ร้านบุฟเฟต์อาหารทะเลดัง
 
น.ส.จิรัชยา ศุภการนิมิต อายุ 25 ปี ผู้เสียหายที่สูญเงินซื้อคูปอง Voucher กว่า 500,000 บาท ให้ข้อมูลว่า ตนเป็นทั้งลูกค้าและเป็นผู้ที่จำหน่ายคูปองให้กับลูกค้าทั่วไป ตนมองว่าธุรกิจนี้เป็นการสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ตนจึงได้นำเงินของครอบครัวไปลงทุนซื้อคูปอง Voucher ของร้านบุฟเฟต์ดังกล่าว จำนวน 2,628 ใบ ราคาใบละ 212.93 บาท รวมเป็นเงิน 559,380 บาท มาขายให้กับลูกค้าในเพจของตนราคาใบละ 240 บาท ซึ่งจะได้กำไรใบละ 27 บาท แต่ถ้าลูกค้าไปซื้อกับทางร้านเองจะขายราคาใบละ 299 บาท ตนทำธุรกิจนี้มาแล้วกว่า 2 ปี ทำให้มีรายได้พอเจือจุนครอบครัว ตนมาทราบว่าร้านปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา จึงได้ประสานไปทางลูกค้าที่ซื้อคูปอง Voucher จากตนไปเพื่อจะโอนเงินคืนให้ลูกค้า ก่อนที่จะเข้าแจ้งความ และมาร้องขอความช่วยเหลือกับทนายรัชพล เพื่อหาทางเอาผิดกับเจ้าของร้าน

...

นายปรัชญิล แสงวัฒน์ ผู้เสียหายในส่วนของลูกค้า กล่าวว่า ตนเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ ตอนแรกเห็นทางเพจของร้านประกาศราคาบุฟเฟต์แซลมอน 199 บาท ก็เลยไปลองกินดู ปรากฏว่าวัตถุดิบที่เขานำมาขายเป็นแซลมอนอย่างดี จึงรู้สึกดีกับร้านนี้มาก ตนจะติดตามคอยซื้อคูปองมาตลอด เวลาทางร้านจัดรายการจะติดต่อเข้าไปซื้อคูปอง แต่ทางร้านจะมีข้อบังคับให้ซื้อ 5 ใบ ตนสูญเงินไปไม่มาก เพราะเป็นเพียงลูกค้าที่ไปนั่งกินที่ร้านไม่ได้ทำเป็นธุรกิจอย่างคนอื่น

ทนายรัชพล กล่าวว่า ผู้เสียหายที่เดินทางมาวันนี้มีทั้งลูกค้าที่ซื้อคูปอง และผู้ที่ทำธุรกิจกับทางร้านบุฟเฟต์ โดยเข้ามาขอคำปรึกษาเพื่อจะหาช่องทางด้านกฎหมายเอาผิดกับเจ้าของร้าน ซึ่งเรื่องนี้หลังจากมีการพูดคุยกับผู้เสียหายแล้วต้องให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความถึงจะสามารถดำเนินคดีได้ ซึ่งก็มีหลายช่องทาง ตามกฎหมายสามารถดำเนินคดีในทางแพ่งไม่มีปัญหาสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ ส่วนในเรื่องอาญานั้นต้องมาดูที่เจตนาของเจ้าของก่อนว่าเขามีเจตนาที่จะมีการฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ผิดพ.ร.บ.คอมฯ ซึ่งอัตราโทษนั้นจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท