แก๊งโจ๋เหิม ยกพวกนับ 10 ขี่ จยย.บุกปาระเบิดปิงปองหน้าบ้านหนุ่ม 19 ย่านบางบัวทอง หนุ่มคาดเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ด้านตำรวจรู้แล้วเป็นกลุ่มไหน เร่งล่าตัวดำเนินคดี เผยเดือนเศษพื้นที่บางบัวทอง เกิดเหตุแบบนี้มาแล้ว 4 ครั้ง
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 4 พ.ค.65 พ.ต.ต.ศุภากร แสงจันทร์ สว.(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่นปาระเบิดปิงปอง ภายในซอยอิหม่ามชาฟีอี หน้าร้านกาแฟหน้าบ้านเลขที่ 68/11 หมู่ 1 ต.ละหาร อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุพบเศษถุงพลาสติกและคราบสีขาว ซึ่งเกิดจากระเบิดอยู่บนถนน นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่อยู่ในละเเวกใกล้เคียง ต่างยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบถาม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า วันนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์มากัน 5 คัน จำนวนกว่า 10 คน ซึ่งแต่ละคนสวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบทุกคน ก่อนหน้านี้ตนเคยมีเรื่องกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่เมืองใหม่สมบัติบุรี ซึ่งวันนั้นวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ใช้มีดไล่ฟันตนกับพวก แต่ก็เคลียร์กันจบแล้ว แต่วันนี้พวกเขาอาจย้อนกลับมาปาระเบิดปิงปองที่หน้าบ้าน ซึ่งการกระทำแบบนี้ตนถือว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย
ด้าน น.ส.สุพัตรา ซาเบ็น อายุ 29 ปี ซึ่งน้าสาวของนายเอ เปิดเผยว่า ขณะตนนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดัง 3 ครั้ง ครั้งแรกคิดว่าเป็นเสียงจุดประทัดของเด็กวัยรุ่นตามปกติ แต่พอได้ยินเสียงกังครั้งที่ 2 ก็คิดว่าเป็นหม้อไฟระเบิด แต่พอครั้งที่ 3 คราวนี้คิดว่าไม่ใช่แล้ว และทุกคนก็วิ่งออกมาดูที่หน้าบ้าน โดยพี่สาวบอกว่ามีควันอยู่หน้าบ้าน จะต้องมีเหตุอะไรสักอย่างเกิดขึ้น ตนสังเกตดูมีสะเก็ดระเบิด จึงไปถามหลานชายว่ามีปัญหาอะไรกับใครหรือไม่ ซึ่งหลานชายบอกว่าเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเสร็จสิ้นวันออกบวชของทางศาสนาอิสลาม หลานได้ไปเที่ยวงานที่ตลาดสมบัติบุรีซึ่งเป็นวันสุดท้าย หลังจากกลับมาจากงานหลานบอกว่ามีปัญหากับวัยรุ่นอีกกลุ่ม
...
"ตนไม่รู้ว่าหลานไปมีปัญหาอะไรกับใคร แต่หลานบอกว่าแค่มองหน้ากันเฉยๆ หลังจากนั้นก็มีพวกวัยรุ่นไปถล่มที่ร้าน ซึ่งร้านนั้นเป็นร้านของพ่อเขา แต่ก็เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วมีการจับไม้จับมือขอให้เลิกราต่อกัน ซึ่งหลานคิดว่ากลุ่มที่มาปาระเบิดหน้าบ้านวันนี้ ต้องเป็นกลุ่มเดียวกันอย่างแน่นอน เพราะว่าหลานไม่ค่อยได้ไปมีเรื่องกับใคร ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงเด็กๆที่อยู่ในบ้าน เพราะหากมีใครอยู่หน้าบ้านอาจจะโดนลูกหลงได้ อยากจะฝากถึงน้องๆที่คิดจะไปก่อเหตุแบบนี้ว่าอย่าทำเลย ผลเสียมันเยอะกว่าผลดี พอถูกจับแล้วจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจมันก็สายไปแล้ว" น.ส.สุพัตรา เผย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญ นายเอ และเพื่อนอีก 2 คน มาสอบปากคำเพื่อหาตัวคนร้ายแล้ว ขณะนี้พอจะทราบแล้วว่าเป็นวัยรุ่นกลุ่มไหน และจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ปาระเบิดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 1 เดือนเศษ ที่กลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันก่อเหตุปาระเบิดคู่อริในเขตพื้นที่ สภ.บางบัวทอง