หนุ่มสุพรรณบุรีกระโดดสะพานลงแม่น้ำเจ้าพระยาต่อหน้าลูก หลังโทรศัพท์ง้อภรรยาไม่สำเร็จ เจ้าหน้าที่พยายามงมหาแต่ยังไม่พบ และตอนนี้ได้ยุติการค้นหาแล้ว
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 17 เม.ย. 2565 ร.ต.อ.รัตนพงศ์ หวังปาน รอง สว.ป.สภ.เมืองนนทบุรี ออกตรวจพื้นที่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนนทรี ว่ามีคนจอดรถยนต์กลางสะพานเจษฎาบดินทร์ ฝั่งขาเข้า ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ก่อนกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กต 8705 สุพรรณบุรี จอดชิดขอบราวสะพาน สภาพหน้ารถมีร่องรอยการเฉี่ยวชน ทราบชื่อผู้ขับขี่ที่กระโดดสะพาน ชื่อ นายคุณาพร อายุ 36 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี
ด.ญ.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ลูกสาวนายคุณาพร ให้การว่า พ่อได้ชวนนั่งรถออกมาจากบ้านที่สุพรรณบุรี ออกมาตั้งแต่เวลา 12.00 น. โดยไม่ได้บอกว่าจะไปไหน จนช่วงเย็นพ่อไปที่บ้านหลังหนึ่ง เดินเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวแต่ไม่มีใครอยู่ ตนไม่ทราบว่าเป็นที่ใด เพราะไม่เคยมา จนช่วงค่ำแวะซื้อข้าวในร้านสะดวกซื้อ แล้วขับรถมาถึงกลางสะพานที่เกิดเหตุ พ่อได้จอดรถแล้วบอกว่าแวะกินข้าวตรงนี้แหละวิวสวยดี ตนจึงบอกว่าไปกินที่อื่นก็ได้ แต่พ่อบอกว่ากินที่นี่แหละแล้วค่อยไป ก่อนที่พ่อจะพาตนปีนข้ามขอบปูนมานั่งกินข้าวที่ทางเดินราวสะพานติดแม่น้ำ
ด.ญ.หนึ่ง ให้การอีกว่า ระหว่างที่นั่งกินข้าวพ่อได้พูดว่า แม่น้ำจะลึกไหม ก่อนจะโทรศัพท์ไปหาภรรยาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของตน เพื่อง้อขอคืนดีเนื่องจากพ่อและแม่เลี้ยงที่เคยอยู่กินด้วยกันมาเกือบ 10 ปี ทะเลาะและเลิกกับพ่อมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ พ่อคุยโทรศัพท์ไม่ถึง 2 นาทีก็วางสาย แล้วหันมาพูดกับตนว่า ไม่มีใครรักและเข้าใจพ่อเลย ทันใดนั้นพ่อก็ปีนราวสะพานเพื่อจะกระโดดลงไปในแม่น้ำ ตนพยายามดึงพ่อไว้แต่ไม่มีแรงพอ ก่อนที่พ่อจะตกลงไปและจมหายไปกับกระแสน้ำ ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ 191
...
ด.ญ.หนึ่ง เผยด้วยว่า ก่อนออกมาจากบ้านพ่อได้กินยาอะไรไม่ทราบ กว่า 30 เม็ด ระหว่างขับรถมีอาการเบลอ จนทำให้ขับรถเฉี่ยวชนกับรถคนอื่นและข้างทางมาตลอด แต่ผู้เสียหายไม่เอาเรื่อง
หลังจากนั้นตำรวจได้แจ้งญาตินายคุณาพร ซึ่งเป็นน้องสาวที่อยู่กรุงเทพมหานคร ให้มาที่เกิดเพื่อมารับตัว ด.ญ.หนึ่ง ไปดูแล ต่อมาตำรวจได้ประสานเรือจากเทศบาลนครนนทบุรี นำนักประดาน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมอุปกรณ์ ออกลงค้นหาตรงจุดที่นายคุณาพรกระโดดลงไป หลังจากนักประดาน้ำใช้เวลาค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ได้ยุติการค้นหา โดยไม่พบตัวผู้สูญหาย